ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีที่ East Point, P. E. I แคนาดา

ที่ East Point, P. E. I ฤดูร้อนมีลักษณะ กำลังสบาย ลมแรง และมีเมฆบางส่วน และฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก ลมแรงจัด และมีเมฆเป็นส่วนมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -10°C ถึง 21°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -18°C หรือสูงกว่า 25°C

คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว East Point, P. E. I เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่อบอุ่นมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ถึงวันที่ 22 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 16°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือ สิงหาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 21°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 16°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.5 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถึงวันที่ 30 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 2°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือ กุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -9°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ -3°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆที่ East Point, P. E. I มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ที่ East Point, P. E. I จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 3 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 5.3 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 12 พฤศจิกายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือ กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 56% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 12 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 6.7 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 3 มิถุนายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 75% ของเวลา

East Point, P. E. I ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมีนัยสำคัญในแง่ความถี่ของวันที่มีฝนตก (กล่าวคือ วันที่มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลวมากกว่า 1 มิลลิเมตร) ช่วงความถี่ตั้งแต่ 29% ถึง 38% โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 33%

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดที่ East Point, P. E. I มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี

ฝนล้วน9.7 เดือน18 มีนาคม6 มกราคม เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดที่ East Point, P. E. I คือ ตุลาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 11.1 วัน

หิมะล้วน2.4 เดือน6 มกราคม18 มีนาคม เดือนที่มีหิมะล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดที่ East Point, P. E. I คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4.5 วัน

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน East Point, P. E. I มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ปริมาณฝนตลอดปีที่ East Point, P. E. I เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดที่ East Point, P. E. I คือ พฤศจิกายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 94 มิลลิเมตร

เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดที่ East Point, P. E. I คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 28 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง East Point, P. E. I มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.8 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดที่ East Point, P. E. I คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 438 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.2 เดือน ระหว่างวันที่ 6 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 9 สิงหาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันที่ East Point, P. E. I แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 8 ชั่วโมง และ 35 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 49 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:14 ในวันที่ 15 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 37 นาที ต่อมาที่เวลา 07:51 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:20 ในวันที่ 10 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 44 นาที ต่อมาที่เวลา 21:04 ในวันที่ 25 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ East Point, P. E. I ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

East Point, P. E. I มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.3 เดือน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม ถึงวันที่ 10 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 4% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดที่ East Point, P. E. I คือเดือนสิงหาคม โดยมี 4.2 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 18 มีนาคม โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ East Point, P. E. I มีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.9 เดือน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึงวันที่ 26 มีนาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 25.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือเดือนธันวาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 31.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.1 เดือน ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 29 กันยายน เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 18.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ที่ East Point, P. E. I มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 4.1 เดือน ระหว่างวันที่ 8 เมษายน ถึงวันที่ 12 สิงหาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 44% ในวันที่ 14 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 7.9 เดือน ระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม ถึงวันที่ 8 เมษายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 50% ในวันที่ 1 มกราคม

East Point, P. E. I ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.7 เดือน ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม ถึงวันที่ 26 กันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 15°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 18°C

เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 3°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ -1°C

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ที่ East Point, P. E. I มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว East Point, P. E. I เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว East Point, P. E. I เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ที่ East Point, P. E. I จะมีเวลานาน 6.3 เดือน (192 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 28 เมษายน ถึงประมาณวันที่ 6 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 12 เมษายน หรือหลังวันที่ 15 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 20 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 24 พฤศจิกายน

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่ East Point, P. E. I ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 18 มิถุนายน น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 10 มิถุนายน หรือหลังวันที่ 26 มิถุนายน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม ถึงวันที่ 20 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 5.5 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.4 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 2.1 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีที่ East Point, P. E. I คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.0 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ East Point, P. E. I คือละติจูดที่ 46.450° ลองจิจูดที่ -61.967° และระดับความสูง 0 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ East Point, P. E. I มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 18 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (63 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (469 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ East Point, P. E. I ปกคลุมไปด้วย น้ำ (91%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (87%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (79%)และต้นไม้ (16%)