สภาพอากาศของเดือนพฤศจิกายน ใน Las Plumas อาร์เจนตินาอุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 3°C จาก 22°C เป็น 25°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 16°C หรือสูงกว่า 32°C อุณหภูมิต่ำรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 3°C จาก 8°C เป็น 10°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 3°C หรือสูงกว่า 15°C สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 13 มกราคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Las Plumas โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 13°C ถึง 29°C ส่วน 17 กรกฎาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -1°C ถึง 10°C ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน พฤศจิกายน ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว Capitan, สหรัฐอเมริกา (ห่างออกไป 9,438 กิโลเมตร) Saint-Pantaléon-de-Larche, ฝรั่งเศส (11,995 กิโลเมตร) และMurrumbateman, ออสเตรเลีย (10,536 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Las Plumas มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเดือน พฤศจิกายน ใน Las Plumas มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ยังคงอยู่ที่ประมาณ 34% ตลอดทั้งเดือน วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 28 พฤศจิกายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 68% ของเวลา สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 52% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 24 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 73% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Las Plumas วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 6% ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 15% ในวันที่ 3 มิถุนายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 4% ในวันที่ 11 ธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่าง พฤศจิกายน ใน Las Plumas อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 8 มิลลิเมตร ตลอดเดือน น้อยมากที่เกิน 26 มิลลิเมตร ดวงอาทิตย์ตลอดระยะเวลาของวันที่ พฤศจิกายน ใน Las Plumas ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 1 ชั่วโมง และ 5 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 นาที และ 13 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 15 นาที และ 34 วินาที วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 6 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 11 นาที เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ใน Las Plumas คือ 06:09 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 27 นาที ในเวลา 05:42 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 20:16 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 37 นาที ในเวลา 20:53 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Las Plumas ระหว่างปี พ.ศ. 2567 สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:43 และตกในเวลาอีก 15 ชั่วโมง และ 27 นาที ต่อมาที่เวลา 21:11 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 09:03 และตกในเวลาอีก 8 ชั่วโมง และ 55 นาที ต่อมาที่ 17:58 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า
ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน Las Plumas is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Las Plumas เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้นจาก 23.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 25.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 26.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 19.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Las Plumas ตลอดเดือน พฤศจิกายน ส่วนใหญ่คือจาก ทิศตะวันตก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 75% ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Las Plumas จะมีเวลานาน 6.3 เดือน (192 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 6 ตุลาคม ถึงประมาณวันที่ 16 เมษายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 17 กันยายน หรือหลังวันที่ 31 ตุลาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 24 มีนาคม หรือหลังวันที่ 8 พฤษภาคม เดือน พฤศจิกายน ใน Las Plumas มีโอกาสมากที่จะอยู่ภายนอกช่วงฤดูกาลเพาะปลูก โดยที่วันใดวันหนึ่งมีโอกาสจะอยู่ในฤดูกาลเพาะปลูกเพิ่มขึ้นช้า ๆ จาก 90% เป็น 99% ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน Las Plumas เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้น 197°C จาก 224°C เป็น 421°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Las Plumas เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้น 1.2 กว.-ชม. จาก 6.9 กว.-ชม. เป็น 8.2 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Las Plumas คือละติจูดที่ -43.721° ลองจิจูดที่ -67.283° และระดับความสูง 169 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Las Plumas มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 195 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 227 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (287 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (816 เมตร) พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Las Plumas ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (53%) ป่าเรือนยอดห่าง (15%) พุ่มไม้ (14%) และต้นไม้ (10%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (80%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (69%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน Las Plumas โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 อุณหภูมิและจุดน้ำค้างเครือข่ายของเรามีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศเพียงแห่งเดียวคือ Almirante Marcos A. Zar Airport ที่เหมาะในการใช้เป็นตัวแทนสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้างในอดีตของ Las Plumas ด้วยระยะห่าง 172 กิโลเมตร จาก Las Plumas ซึ่งไกลกว่าเกณฑ์ที่เรากำหนดไว้ที่ 150 กิโลเมตร จึงถือว่าสถานีแห่งนี้อยู่ใกล้ไม่พอที่จะใช้เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้าง ด้วยเหตุนี้ บันทึกข้อมูลของสถานีจึงผสมผสานกับค่าที่ประมาณได้จาก NASA's การวิเคราะห์ซ้ำในยุคดาวเทียม MERRA-2 ขององค์การ NASA โดยปรับแก้ทั้งสองค่าเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงตาม บรรยากาศมาตรฐานสากล ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่กำหนดให้กับค่า MERRA-2 จะขึ้นอยู่กับระยะห่างจาก Las Plumas ถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 0% ที่ 150 กิโลเมตร ไปถึง 100% ที่ 200 กิโลเมตร ในกรณีนี้ ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ MERRA-2 คือ 31% ซึ่งทำให้ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่กำหนดให้กับสถานีตรวจวัดสภาพอากาศแห่งนั้นมีค่า 69% ข้อมูลอื่น ๆข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่ ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่ ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา |