สภาพอากาศของเดือนกรกฎาคม ที่ Parana Airport อาร์เจนตินา

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 1°C จาก 16°C เป็น 17°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 11°C หรือสูงกว่า 23°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 16°C ในวันที่ 8 กรกฎาคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 8°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 2°C หรือสูงกว่า 14°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 7°C ในวันที่ 18 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 12 มกราคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ที่ Parana Airport โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 20°C ถึง 31°C ส่วน 18 กรกฎาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 7°C ถึง 16°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน กรกฎาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Huelva, สเปน (ห่างออกไป 9,489 กิโลเมตร) Ash Shafā, ซาอุดีอาระเบีย (12,217 กิโลเมตร) และTaree, ออสเตรเลีย (12,143 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Parana Airport มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Parana Airport กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน กรกฎาคม ที่ Parana Airport มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ยังคงอยู่ที่ประมาณ 40% ตลอดทั้งเดือน

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 20 กรกฎาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 62% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 46% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 74% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ที่ Parana Airport วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน กรกฎาคม มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 9% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 34% ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 9% ในวันที่ 30 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน กรกฎาคม ที่ Parana Airport อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 26 มิลลิเมตร ตลอดเดือน น้อยมากที่เกิน 67 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 1 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 25 มิลลิเมตร ในวันที่ 15 กรกฎาคม

ตลอดระยะเวลาของวันที่ กรกฎาคม ที่ Parana Airport ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้นช้า ๆ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 29 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 57 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 6 นาที และ 41 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 กรกฎาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 7 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 กรกฎาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 35 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ที่ Parana Airport คือ 08:02 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 12 นาที ในเวลา 07:50 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:09 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 17 นาที ในเวลา 18:26 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ที่ Parana Airport ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:53 และตกในเวลาอีก 14 ชั่วโมง และ 14 นาที ต่อมาที่เวลา 20:07 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 08:01 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 4 นาที ต่อมาที่ 18:05

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน กรกฎาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ที่ Parana Airport is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 1% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 49% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 1% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Parana Airport เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้นจาก 14.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 15.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 16.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 6 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 13.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลม ที่ Parana Airport ระหว่างเดือน กรกฎาคม ส่วนใหญ่มาจาก ทิศเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 21 กรกฎาคมและทิศใต้ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

แม้ว่าไม่เป็นเช่นนั้นทุกปี แต่ฤดูหนาวบางปี ที่ Parana Airport จะมีอุณหภูมิเยือกแข็งบ้าง วันที่ที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะอยู่ในฤดูเพาะปลูกคือ 6 กรกฎาคม โดยมีโอกาส 61%

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ที่ Parana Airport เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้น 89°C จาก 0°C เป็น 89°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ที่ Parana Airport เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้น 0.6 กว.-ชม. จาก 2.9 กว.-ชม. เป็น 3.5 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Parana Airport คือละติจูดที่ -31.795° ลองจิจูดที่ -60.480° และระดับความสูง 68 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Parana Airport มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 68 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 70 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (135 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (137 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Parana Airport ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (65%) ต้นไม้ (13%) และทุ่งหญ้า (12%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (54%)และต้นไม้ (11%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (52%)และพุ่มไม้ (14%)