สภาพอากาศของเดือนมกราคม ที่ Victoria Beach แคนาดา

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ -11°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -23°C หรือสูงกว่า -1°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ -12°C ในวันที่ 12 มกราคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ -20°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -32°C หรือสูงกว่า -8°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ -21°C ในวันที่ 15 มกราคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 24 กรกฎาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ที่ Victoria Beach โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 17°C ถึง 25°C ส่วน 15 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -21°C ถึง -12°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน มกราคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Anuchino, รัสเซีย (ห่างออกไป 8,460 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Victoria Beach มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Victoria Beach กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน มกราคม ที่ Victoria Beach มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ยังคงอยู่ที่ประมาณ 67% ตลอดทั้งเดือน

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 5 มกราคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 34% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 69% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 70% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ที่ Victoria Beach วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน มกราคม มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 8% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 35% ในวันที่ 20 มิถุนายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 7% ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณหิมะเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในเดือนมกราคม ที่ Victoria Beach ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 98 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 235 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 9 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 74 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 157 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 10 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของวันที่ มกราคม ที่ Victoria Beach ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 1 ชั่วโมง และ 9 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 นาที และ 17 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 16 นาที และ 2 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 มกราคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 8 ชั่วโมง และ 4 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 มกราคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 12 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ที่ Victoria Beach คือ 08:28 เมื่อวันที่ 1 มกราคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 24 นาที ในเวลา 08:03 เมื่อวันที่ 31 มกราคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 16:31 เมื่อวันที่ 1 มกราคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 44 นาที ในเวลา 17:16 เมื่อวันที่ 31 มกราคม

มีการใช้เวลาออมแสง ที่ Victoria Beach ระหว่างปี พ.ศ. 2567 แต่ไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงในเดือน มกราคม ดังนั้นจึงมีการใช้เวลาออมแสงตลอดทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:13 และตกในเวลาอีก 16 ชั่วโมง และ 30 นาที ต่อมาที่เวลา 21:42 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 08:25 และตกในเวลาอีก 7 ชั่วโมง และ 58 นาที ต่อมาที่ 16:23

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน มกราคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ที่ Victoria Beach is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มกราคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 26% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Victoria Beach is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มกราคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 14.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 26 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 17.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 13.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Victoria Beach ตลอดเดือน มกราคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศเหนือ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 26 มกราคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ที่ Victoria Beach จะมีเวลานาน 5.1 เดือน (157 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 9 พฤษภาคม ถึงประมาณวันที่ 13 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 21 เมษายน หรือหลังวันที่ 26 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 22 กันยายน หรือหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน

เดือน มกราคม ที่ Victoria Beach อยู่ภายนอกช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมาโดยตลอด

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ที่ Victoria Beach อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มกราคม โดยยังคงอยู่ที่ประมาณ 0°C ตลอดเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ที่ Victoria Beach เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน มกราคม โดยเพิ่มขึ้น 0.6 กว.-ชม. จาก 1.0 กว.-ชม. เป็น 1.6 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Victoria Beach คือละติจูดที่ 50.700° ลองจิจูดที่ -96.567° และระดับความสูง 216 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Victoria Beach มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 19 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 219 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (67 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (127 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Victoria Beach ปกคลุมไปด้วย น้ำ (70%)และต้นไม้ (15%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (77%)และต้นไม้ (20%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (50%)และพื้นที่เพาะปลูก (23%)