สภาพอากาศของเดือนพฤศจิกายน ใน Muktāgācha บังกลาเทศ

อุณหภูมิสูงรายวัน ลดลง ไป 3°C จาก 30°C เป็น 27°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 25°C หรือสูงกว่า 32°C

อุณหภูมิต่ำรายวัน ลดลง ไป 5°C จาก 22°C เป็น 17°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 15°C หรือสูงกว่า 23°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 12 เมษายน วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Muktāgācha โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 23°C ถึง 34°C ส่วน 12 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 13°C ถึง 24°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน พฤศจิกายน ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Los Altos, เม็กซิโก (ห่างออกไป 14,814 กิโลเมตร) Kyela, แทนซาเนีย (7,214 กิโลเมตร) และBroome, ออสเตรเลีย (5,886 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Muktāgācha มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Muktāgācha กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน พฤศจิกายน ใน Muktāgācha มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ลดลง จาก 19% เป็น 14%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 30 พฤศจิกายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 86% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 89% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 89% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Muktāgācha วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน มีโอกาส ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 12% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 3%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 75% ในวันที่ 13 กรกฎาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 2% ในวันที่ 31 ธันวาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ใน Muktāgācha ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 41 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 97 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 8 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 30 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของวันที่ พฤศจิกายน ใน Muktāgācha ความยาวของเวลากลางวัน ลดลงช้า ๆ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน ลดลง ไป 29 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การลดลง รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 นาที และ 0 วินาที และมี การลดลง รายสัปดาห์เท่ากับ 7 นาที และ 0 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 43 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 12 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของเดือน ใน Muktāgācha คือ 06:06 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 20 นาที ในเวลา 06:25 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน

เวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ 17:18 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 9 นาที ในเวลา 17:09 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Muktāgācha ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:10 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 41 นาที ต่อมาที่เวลา 18:50 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:39 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 36 นาที ต่อมาที่ 17:15

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน Muktāgācha ลดลงอย่างรวดเร็วมาก ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ลดลง จาก 78% เป็น 17% ตลอดช่วงเวลาของเดือนนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 14 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 1% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Muktāgācha is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 6.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 14.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 26 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 6.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำสุดรายวันระหว่างเดือน พฤศจิกายน คือ 6.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 26 พฤศจิกายน

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Muktāgācha ตลอดเดือน พฤศจิกายน ส่วนใหญ่คือจาก ทิศเหนือ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 47% ในวันที่ 30 พฤศจิกายน

Muktāgācha ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ย ใน Muktāgācha ลดลง ระหว่างเดือน พฤศจิกายน, ลดลง 2°C จาก 25°C เป็น 23°C ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Muktāgācha มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน Muktāgācha เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้น 384°C จาก 4,872°C เป็น 5,256°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Muktāgācha ลดลงช้า ๆ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยลดลง 0.5 กว.-ชม. จาก 4.9 กว.-ชม. เป็น 4.3 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Muktāgācha คือละติจูดที่ 24.765° ลองจิจูดที่ 90.257° และระดับความสูง 22 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Muktāgācha มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 17 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 18 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (37 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (1,444 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Muktāgācha ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (50%)และทุ่งหญ้า (50%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (48%)และทุ่งหญ้า (48%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (41%)และทุ่งหญ้า (41%)