ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Nakaseke ยูกันดาใน Nakaseke ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น ร้อน และมืดครึ้ม ฤดูหนาวมีลักษณะ ยาวนาน กำลังสบาย มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก และมีเมฆเป็นส่วนมาก และ ร้อนอบอ้าว ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 15°C ถึง 30°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 14°C หรือสูงกว่า 34°C คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Nakaseke เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยใน Nakasekeฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 1.5 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม ถึงวันที่ 13 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 30°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Nakaseke คือ กุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 30°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 17°C ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 7.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 27°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Nakaseke คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 15°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 27°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว San José de Cusmapa, นิการากัว (ห่างออกไป 13,135 กิโลเมตร)และIcononzo, โคลอมเบีย (11,890 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Nakaseke มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Nakaseke มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Nakaseke จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 10 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 3.7 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 30 กันยายน เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Nakaseke คือ สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 48% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 30 กันยายน และมีระยะเวลานาน 8.3 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 10 มิถุนายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Nakaseke คือ เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 84% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Nakaseke มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 8.5 เดือน ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 55% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Nakaseke คือ เมษายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 24.3 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 11 มีนาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Nakaseke คือ มกราคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 8.7 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Nakaseke คือ เมษายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 24.3 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 84% ในวันที่ 29 เมษายน
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Nakaseke มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ปริมาณฝนตลอดปีใน Nakaseke เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Nakaseke คือ เมษายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 184 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Nakaseke คือ มกราคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 44 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน Nakaseke ไม่แตกต่างกันมากตลอดระยะเวลาทั้งปี และคงอยู่ภายในช่วง 9 นาที ของ 12 ชั่วโมง โดยตลอด ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 5 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 10 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 06:31 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 31 นาที ต่อมาที่เวลา 07:01 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 18:36 ในวันที่ 3 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 31 นาที ต่อมาที่เวลา 19:07 ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Nakaseke ระหว่างปี พ.ศ. 2567 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน Nakaseke มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 10 เดือน ระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 61% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Nakaseke คือเดือนพฤษภาคม โดยมี 27.7 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดใน Nakaseke คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 16.5 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Nakaseke มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม ถึงวันที่ 9 สิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 7.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Nakaseke คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 9.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 9.0 เดือน ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Nakaseke คือเดือนตุลาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 6.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Nakaseke มีความแตกต่างกันตลอดปี ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 8.2 เดือน ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึงวันที่ 4 ตุลาคมและเป็นเวลา 4.0 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 81% ในวันที่ 1 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 1.7 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม ถึงวันที่ 16 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 31% ในวันที่ 9 ตุลาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 2.5 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 28 มกราคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 36% ในวันที่ 1 มกราคม เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Nakaseke มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Nakaseke เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคม คะแนนการท่องเที่ยว in Nakasekeคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Nakaseke เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤษภาคม ถึงปลายเดือนกันยายนและตั้งแต่ช่วงปลาย พฤศจิกายน ถึงกลางเดือนมีนาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน Nakasekeระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) อุณหภูมิ ใน Nakaseke มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลพอสมควรตลอดช่วงเวลาทั้งปี ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 7 มกราคม ถึงวันที่ 11 มีนาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 6.2 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Nakaseke คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.5 กว.-ชม. ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 1.3 เดือน ระหว่างวันที่ 17 เมษายน ถึงวันที่ 28 พฤษภาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 5.0 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Nakaseke คือ พฤษภาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.8 กว.-ชม.
ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Nakaseke คือละติจูดที่ 0.752° ลองจิจูดที่ 32.385° และระดับความสูง 1,126 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Nakaseke มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 67 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1,126 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (278 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเช่นกัน (582 เมตร) พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Nakaseke ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (63%)และต้นไม้ (37%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (54%)และต้นไม้ (36%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (36%)และต้นไม้ (27%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน Nakaseke โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 อุณหภูมิและจุดน้ำค้างเครือข่ายของเรามีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศเพียงแห่งเดียวคือ Entebbe Airport ที่เหมาะในการใช้เป็นตัวแทนสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้างในอดีตของ Nakaseke ด้วยระยะห่าง 79 กิโลเมตร จาก Nakaseke ซึ่งใกล้กว่าเกณฑ์ที่เรากำหนดไว้ที่ 150 กิโลเมตร จึงถือว่าสถานีแห่งนี้อยู่ใกล้เพียงพอที่จะใช้เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้าง บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีกับ Nakaseke ตามบรรยากาศมาตรฐานสากล และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน MERRA-2 satellite-era reanalysis ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง โปรดทราบว่า สถานีเองอาจลงข้อมูลเพิ่มเติมในบันทึกโดยใช้ข้อมูลจากสถานีอื่นที่อยู่ใกล้เคียงหรือจาก MERRA-2 reanalysis ข้อมูลอื่น ๆข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่ ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่ ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มต |