ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Korbous ตูนิเซีย

ใน Korbous ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น ร้อน ร้อนอบอ้าว แห้ง และแจ่มใส และฤดูหนาวมีลักษณะ ยาวนาน หนาว ลมแรง และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 8°C ถึง 32°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 5°C หรือสูงกว่า 35°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Korbous เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 2.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 28°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Korbous คือ สิงหาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 31°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 22°C

ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 4.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 25 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 18°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Korbous คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 8°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 15°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Korbous มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Korbous จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 13 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 2.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 8 กันยายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Korbous คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 94% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 8 กันยายน และมีระยะเวลานาน 9.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 13 มิถุนายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Korbous คือ ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 41% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Korbous มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 8.5 เดือน ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 11% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Korbous คือ ตุลาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 5.7 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม ถึงวันที่ 30 สิงหาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Korbous คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.9 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Korbous คือ ตุลาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5.7 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 20% ในวันที่ 28 กันยายน

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Korbous มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 9.5 เดือน ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม ถึงวันที่ 5 มิถุนายน โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Korbous คือ ตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 37 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.5 เดือน ระหว่างวันที่ 5 มิถุนายน ถึงวันที่ 20 สิงหาคม เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Korbous คือ กรกฎาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 4 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Korbous แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 38 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 41 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 04:58 ในวันที่ 13 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 33 นาที ต่อมาที่เวลา 07:30 ในวันที่ 6 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:01 ในวันที่ 6 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 40 นาที ต่อมาที่เวลา 19:40 ในวันที่ 28 มิถุนายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Korbous ระหว่างปี พ.ศ. 2567

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

Korbous มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.3 เดือน ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน ถึงวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 19% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Korbous คือเดือนสิงหาคม โดยมี 22.3 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Korbous มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.2 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 18.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Korbous คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 20.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.8 เดือน ระหว่างวันที่ 6 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 ตุลาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Korbous คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 15.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Korbous มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 4.8 เดือน ระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 41% ในวันที่ 18 สิงหาคม ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 2.7 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 20 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 30% ในวันที่ 13 ตุลาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 6.6 เดือน ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 45% ในวันที่ 1 มกราคม

Korbous ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 8 กรกฎาคม ถึงวันที่ 6 ตุลาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 24°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน Korbous คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 26°C

เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน ระหว่างวันที่ 23 ธันวาคม ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 17°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน Korbous คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 15°C

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Korbous มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Korbous เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย เมษายน ถึงต้นเดือนกรกฎาคมและตั้งแต่ช่วงปลาย กันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Korbous เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Korbous มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.4 เดือน ระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม ถึงวันที่ 18 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 6.8 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Korbous คือเดือนกรกฎาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.8 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 3.5 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Korbous คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.4 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Korbous คือละติจูดที่ 36.817° ลองจิจูดที่ 10.569° และระดับความสูง 16 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Korbous มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 415 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 93 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเช่นกัน (434 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,275 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Korbous ปกคลุมไปด้วย น้ำ (46%)และต้นไม้ (44%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (52%)และพื้นที่เพาะปลูก (27%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (57%)และพื้นที่เพาะปลูก (28%)