ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน มาดริด สเปน

ใน มาดริด ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น ร้อน แห้ง และแจ่มใสเป็นส่วนมาก และฤดูหนาวมีลักษณะ ยาวนาน หนาวจัด และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 0°C ถึง 33°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -5°C หรือสูงกว่า 37°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว มาดริด เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงปลายเดือนสิงหาคม

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 2.9 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 10 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 29°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน มาดริด คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 33°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 17°C

ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 3.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 15°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน มาดริด คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 1°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 10°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน มาดริด มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน มาดริด จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 11 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 12 กันยายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน มาดริด คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 86% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 12 กันยายน และมีระยะเวลานาน 9.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 11 มิถุนายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน มาดริด คือ ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 51% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน มาดริด มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 8.4 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 14 มิถุนายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 14% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน มาดริด คือ พฤษภาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 6.6 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 3.6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน มาดริด คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 1.8 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน มาดริด คือ พฤษภาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 6.6 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 23% ในวันที่ 29 เมษายน

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน มาดริด มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 9.9 เดือน ระหว่างวันที่ 4 กันยายน ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน มาดริด คือ ตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 45 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม ถึงวันที่ 4 กันยายน เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน มาดริด คือ กรกฎาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 8 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน มาดริด แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2566 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 22 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 17 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 4 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 06:44 ในวันที่ 15 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 56 นาที ต่อมาที่เวลา 08:39 ในวันที่ 28 ตุลาคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:48 ในวันที่ 8 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 1 นาที ต่อมาที่เวลา 21:49 ในวันที่ 28 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน มาดริด ระหว่างปี พ.ศ. 2566 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 26 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.1 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 29 ตุลาคม

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2566 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ระดับความชื้นที่รับรู้ ใน มาดริด เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน มาดริด มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.4 เดือน ระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 12.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน มาดริด คือเดือนเมษายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.6 เดือน ระหว่างวันที่ 7 พฤษภาคม ถึงวันที่ 27 มกราคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน มาดริด คือเดือนกันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 11.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน มาดริด มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 2.0 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4 เมษายน ถึงวันที่ 18 เมษายนและเป็นเวลา 6.2 เดือน ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 33% ในวันที่ 4 สิงหาคม ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 1.1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 18 เมษายน ถึงวันที่ 26 เมษายนและเป็นเวลา 5.1 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 4 เมษายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 32% ในวันที่ 21 เมษายน

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน มาดริด มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว มาดริด เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤษภาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว มาดริด เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน มาดริด จะมีเวลานาน 7.6 เดือน (232 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 28 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 15 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 22 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 27 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 7 ธันวาคม

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน มาดริด ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 12 มีนาคม น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 1 มีนาคม หรือหลังวันที่ 30 มีนาคม

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.2 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม ถึงวันที่ 21 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 7.0 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน มาดริด คือเดือนกรกฎาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.1 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 3.2 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน มาดริด คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.0 กว.-ชม.