ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน จอร์จทาวน์ เซนต์เฮเลนาใน จอร์จทาวน์ ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น ร้อน ร้อนและไม่มีลม และแห้งแล้ง ฤดูหนาวมีลักษณะ ยาวนาน อุ่น อบอ้าว และแห้ง และ ลมแรงและมีเมฆบางส่วน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 23°C ถึง 30°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 22°C หรือสูงกว่า 31°C คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว จอร์จทาวน์ เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง พฤษภาคม ถึงปลายเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยใน จอร์จทาวน์ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 29°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือ มีนาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 30°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 26°C ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 4.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 27°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือ กันยายน โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 23°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 26°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว Baláo, เอกวาดอร์ (ห่างออกไป 7,263 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ จอร์จทาวน์ มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน จอร์จทาวน์ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน จอร์จทาวน์ จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 18 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 3.6 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 5 กันยายน เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 84% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 5 กันยายน และมีระยะเวลานาน 8.4 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 18 พฤษภาคม เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 59% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าจอร์จทาวน์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมีนัยสำคัญในแง่ความถี่ของวันที่มีฝนตก (กล่าวคือ วันที่มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลวมากกว่า 1 มิลลิเมตร) ช่วงความถี่ตั้งแต่ 0% ถึง 4% โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1% ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน จอร์จทาวน์ คือ เมษายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0.9 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 4% ในวันที่ 10 เมษายน
ปริมาณน้ำฝนปริมาณฝนในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลางใน จอร์จทาวน์ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญตลอดปี โดยคงอยู่ภายในช่วง 2 มิลลิเมตร ของ 2 มิลลิเมตร ตลอดเวลา
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน จอร์จทาวน์ ไม่แตกต่างกันมากตลอดระยะเวลาทั้งปี และคงอยู่ภายในช่วง 35 นาที ของ 12 ชั่วโมง โดยตลอด ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 40 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 35 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 06:27 ในวันที่ 15 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 45 นาที ต่อมาที่เวลา 07:12 ในวันที่ 15 กรกฎาคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 18:45 ในวันที่ 25 พฤษภาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 39 นาที ต่อมาที่เวลา 19:24 ในวันที่ 29 มกราคม ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน จอร์จทาวน์ ระหว่างปี พ.ศ. 2567 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน จอร์จทาวน์ มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.3 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 57% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน จอร์จทาวน์ คือเดือนมีนาคม โดยมี 31.0 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดใน จอร์จทาวน์ คือเดือนกันยายน โดยมี 13.2 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน จอร์จทาวน์ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.5 เดือน ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 13 ธันวาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 23.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 26.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 21.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน จอร์จทาวน์ คือมาจากทิศตะวันออกตลอดปี อุณหภูมิน้ำจอร์จทาวน์ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 3.1 เดือน ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 27 พฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 27°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือเดือนเมษายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 28°C เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 3.9 เดือน ระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 ธันวาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 25°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือเดือนกันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 24°C
เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน จอร์จทาวน์ มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว จอร์จทาวน์ เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนการท่องเที่ยว in จอร์จทาวน์คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว จอร์จทาวน์ เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง พฤษภาคม ถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน จอร์จทาวน์ระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) อุณหภูมิ ใน จอร์จทาวน์ มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลพอสมควรตลอดช่วงเวลาทั้งปี ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 14 มกราคม ถึงวันที่ 19 มีนาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 6.7 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.0 กว.-ชม. ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม ถึงวันที่ 6 กันยายน โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 5.7 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน จอร์จทาวน์ คือ กรกฎาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.4 กว.-ชม.
ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ จอร์จทาวน์ คือละติจูดที่ -7.929° ลองจิจูดที่ -14.412° และระดับความสูง 20 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ จอร์จทาวน์ มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 255 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 39 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (846 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันมากเช่นกัน (846 เมตร) พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ จอร์จทาวน์ ปกคลุมไปด้วย น้ำ (95%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (98%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (100%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน จอร์จทาวน์ โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 อุณหภูมิและจุดน้ำค้างเครือข่ายของเรามีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศเพียงแห่งเดียวคือ RAF Ascension Island ที่เหมาะในการใช้เป็นตัวแทนสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้างในอดีตของ จอร์จทาวน์ ด้วยระยะห่าง 5 กิโลเมตร จาก จอร์จทาวน์ ซึ่งใกล้กว่าเกณฑ์ที่เรากำหนดไว้ที่ 150 กิโลเมตร จึงถือว่าสถานีแห่งนี้อยู่ใกล้เพียงพอที่จะใช้เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้าง บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีกับ จอร์จทาวน์ ตามบรรยากาศมาตรฐานสากล และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน MERRA-2 satellite-era reanalysis ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง โปรดทราบว่า สถานีเองอาจลงข้อมูลเพิ่มเติมในบันทึกโดยใช้ข้อมูลจากสถานีอื่นที่อยู่ใกล้เคียงหรือจาก MERRA-2 reanalysis ข้อมูลอื่น ๆข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่ ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่ ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา |