ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์, สหรัฐอเมริกาใน บอสตัน ฤดูร้อนมีลักษณะ อุ่น ฤดูหนาวมีลักษณะ หนาวจัดและหิมะตก และ มีเมฆบางส่วน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -5°C ถึง 28°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -13°C หรือสูงกว่า 33°C คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว บอสตัน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยใน บอสตันฤดูกาลที่อบอุ่นมีระยะเวลา 3.3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 23°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน บอสตัน คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 28°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 19°C ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ถึงวันที่ 15 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 7°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน บอสตัน คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -5°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 3°C อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยและอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยใน บอสตัน
อุณหภูมิรายวันเฉลี่ยสูงสุด (เส้นสีแดง) และอุณหภูมิรายวันเฉลี่ยต่ำสุด (เส้นสีน้ำเงิน) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางเป็นอุณหภูมิที่รับรู้เฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน บอสตัน
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ซึ่งเข้ารหัสสีเป็นแถบ โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ
Utamysh, รัสเซีย (ห่างออกไป 8,790 กิโลเมตร)และเกะโระ, ญี่ปุ่น (10,873 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ บอสตัน มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน บอสตัน มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน บอสตัน จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 26 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 6 พฤศจิกายน เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน บอสตัน คือ กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 62% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 6 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 7.6 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 26 มิถุนายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน บอสตัน คือ พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 53% ของเวลา ประเภทเมฆปกคลุม ใน บอสตัน
0%
แจ่มใส
20%
แจ่มใสเป็นส่วนมาก
40%
มีเมฆบางส่วน
60%
มีเมฆเป็นส่วนมาก
80%
มืดครึ้ม
100%
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแต่ละแถบเมฆปกคลุม โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ของท้องฟ้าที่มีเมฆปกคลุม
หยาดน้ำฟ้าบอสตัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมีนัยสำคัญในแง่ความถี่ของวันที่มีฝนตก (กล่าวคือ วันที่มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลวมากกว่า 1 มิลลิเมตร) ช่วงความถี่ตั้งแต่ 23% ถึง 33% โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 28% ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน บอสตัน คือ มิถุนายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 9.3 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 33% ในวันที่ 24 พฤษภาคม
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน บอสตัน มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ปริมาณฝนตลอดปีใน บอสตัน เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน บอสตัน คือ ตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 99 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน บอสตัน คือ มกราคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 57 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือน ใน บอสตัน
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณหิมะเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
ปริมาณหิมะเช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง บอสตัน มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.0 เดือน ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 12 เมษายน โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน บอสตัน คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 212 มิลลิเมตร ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.0 เดือน ระหว่างวันที่ 12 เมษายน ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 4 สิงหาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร ปริมาณหิมะเฉลี่ยรายเดือนใน บอสตัน
ปริมาณหิมะเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน บอสตัน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2566 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 5 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 17 นาที จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาใน บอสตัน
จำนวนชั่วโมงที่มองเห็นดวงอาทิตย์ (เส้นสีดำ) จากด้านล่าง (สีเหลืองมากที่สุด) ไปด้านบน (สีเทามากที่สุด) แถบสีแสดง : เวลากลางวันเต็มที่, สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และเวลากลางคืนเต็มที่
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:06 ในวันที่ 15 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 14 นาที ต่อมาที่เวลา 07:21 ในวันที่ 4 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:11 ในวันที่ 8 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 14 นาที ต่อมาที่เวลา 20:25 ในวันที่ 27 มิถุนายน เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน บอสตัน ระหว่างปี พ.ศ. 2566 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 12 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 5 พฤศจิกายน อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาและเวลาออมแสงใน บอสตัน
วันสุริยะคติตลอดช่วงปี พ.ศ. 2566 จากด้านล่างไปด้านบน เส้นสีดำคือ เที่ยงคืนสุริยะก่อนหน้านี้ อาทิตย์ขึ้น เที่ยงสุริยะ อาทิตย์ตก และเที่ยงคืนสุริยะครั้งถัดไป กลางวัน สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และกลางคืนแสดงให้เห็นด้วยแถบสีจากสีเหลืองไปยังสีเทา การเปลี่ยนผ่านไปยังและจากเวลาออมแสงจะมีข้อความกำกับว่า 'ออมแสง'
รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศ ใน บอสตัน
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศตลอดช่วงปี พ.ศ. 2566 เส้นสีดำเป็นเส้นแสดงระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า ในหน่วยองศา) สีที่เติมบนพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศ (ทิศทางที่มุ่งหน้าตามเข็มทิศ) ของดวงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตของจุดหลักสี่จุดบนเข็มทิศระบุทิศทางระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)
ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2566 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมใน บอสตัน
เวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า (พื้นที่สีน้ำเงินอ่อน) โดยระบุเวลาที่จันทร์ดับ (เส้นสีเทาเข้ม) และจันทร์เต็มดวง (เส้นสีน้ำเงิน) โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ
ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน บอสตัน มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 22 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 10% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน บอสตัน คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 10.3 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย ระดับความสบายต่อความชื้น ใน บอสตัน
แห้ง
13°C
กำลังสบาย
16°C
อบอ้าว
18°C
ร้อนอบอ้าว
21°C
ร้อนและไม่มีลม
24°C
มีความชื้นสูงมาก
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในระดับความสบายต่อความชื้นต่าง ๆ โดยแบ่งตามจุดน้ำค้าง
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน บอสตัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.9 เดือน ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึงวันที่ 22 เมษายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 11.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน บอสตัน คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 14.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.1 เดือน ระหว่างวันที่ 22 เมษายน ถึงวันที่ 24 ตุลาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน บอสตัน คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 8.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน บอสตัน คือมาจากทิศตะวันตกตลอดปี ทิศทางลมใน บอสตัน
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ซึ่งทิศทางลมเฉลี่ยมาจากทิศหลักของลมทั้ง 4 ทิศ โดยไม่รวมถึงจำนวนชั่วโมงที่มีความเร็วลมเฉลี่ยน้อยกว่า 1.6 กม./ชม. พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตคือเปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ใช้ไปกับทิศระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)
อุณหภูมิน้ำบอสตัน ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน ถึงวันที่ 26 กันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 16°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน บอสตัน คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 19°C เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 3.8 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม ถึงวันที่ 22 เมษายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 6°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน บอสตัน คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 4°C
เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน บอสตัน มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว บอสตัน เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม คะแนนการท่องเที่ยว in บอสตัน
คะแนนการท่องเที่ยว (พื้นที่สีทึบ) และองค์ประกอบต่าง ๆ อันได้แก่ : คะแนนอุณหภูมิ (เส้นสีแดง) คะแนนเมฆปกคลุม (เส้นสีน้ำเงิน) และคะแนนหยาดน้ำฟ้า (เส้นสีเขียว)
คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว บอสตัน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน บอสตัน |