ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน ปาล์มสปริงส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา

ใน ปาล์มสปริงส์ ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อนระอุ แห้งแล้ง และแจ่มใสเป็นส่วนมาก และฤดูหนาวมีลักษณะ เย็นและมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 7°C ถึง 41°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 3°C หรือสูงกว่า 45°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว ปาล์มสปริงส์ เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ถึงวันที่ 19 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 37°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 41°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 26°C

ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 3.3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 24°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือ ธันวาคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 8°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 20°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน ปาล์มสปริงส์ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน ปาล์มสปริงส์ จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 9 เมษายน และมีระยะเวลานาน 6.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 4 พฤศจิกายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือ กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 89% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 4 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 5.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 9 เมษายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือ กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 40% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน ปาล์มสปริงส์ มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 4.3 เดือน ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 1 เมษายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 8% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 4.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 7.7 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือ มิถุนายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.3 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4.0 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 15% ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน ปาล์มสปริงส์ มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 4.5 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 30 มีนาคม โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 39 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.4 เดือน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือ มิถุนายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 1 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน ปาล์มสปริงส์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 54 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 24 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:34 ในวันที่ 12 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 32 นาที ต่อมาที่เวลา 07:06 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:37 ในวันที่ 4 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 3 ชั่วโมง และ 24 นาที ต่อมาที่เวลา 20:01 ในวันที่ 28 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน ปาล์มสปริงส์ ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ปาล์มสปริงส์ มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 25 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 3% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน ปาล์มสปริงส์ คือเดือนสิงหาคม โดยมี 3.8 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน ปาล์มสปริงส์ มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 10.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือเดือนเมษายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 12.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.7 เดือน ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 9.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน ปาล์มสปริงส์ มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 9.1 เดือน ระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 72% ในวันที่ 16 มิถุนายน ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 2.9 เดือน ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 49% ในวันที่ 1 มกราคม

ปาล์มสปริงส์ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.9 เดือน ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม ถึงวันที่ 4 ตุลาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 20°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 21°C

เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน ระหว่างวันที่ 7 ธันวาคม ถึงวันที่ 19 เมษายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 16°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน ปาล์มสปริงส์ คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 15°C

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน ปาล์มสปริงส์ มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว ปาล์มสปริงส์ เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น เมษายน ถึงกลางเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงกลาง กันยายน ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว ปาล์มสปริงส์ เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงปลายเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน