ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Elma Center สหรัฐอเมริกา

ใน Elma Center ฤดูร้อนมีลักษณะ อุ่นและมีเมฆบางส่วน และฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก ลมแรง และมีเมฆเป็นส่วนมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -8°C ถึง 27°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -16°C หรือสูงกว่า 31°C

คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Elma Center เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่อบอุ่นมีระยะเวลา 3.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม ถึงวันที่ 18 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 21°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Elma Center คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 26°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 17°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.3 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ถึงวันที่ 12 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 5°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Elma Center คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -7°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ -0°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Elma Center มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Elma Center จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 3 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 6.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 5 พฤศจิกายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Elma Center คือ สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 66% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 5 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 5.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 3 พฤษภาคม

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Elma Center คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 73% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Elma Center มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 8.7 เดือน ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 11 ธันวาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 27% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Elma Center คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 11.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม ถึงวันที่ 20 มีนาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Elma Center คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 5.5 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Elma Center คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 11.0 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 37% ในวันที่ 31 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Elma Center มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ปริมาณฝนตลอดปีใน Elma Center เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Elma Center คือ กันยายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 75 มิลลิเมตร

เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Elma Center คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 20 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Elma Center มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.3 เดือน ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 15 เมษายน โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Elma Center คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 145 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.7 เดือน ระหว่างวันที่ 15 เมษายน ถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 3 สิงหาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Elma Center แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 1 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 21 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:35 ในวันที่ 14 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 15 นาที ต่อมาที่เวลา 07:50 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:40 ในวันที่ 8 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 17 นาที ต่อมาที่เวลา 20:57 ในวันที่ 26 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน Elma Center ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

Elma Center มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 3 มิถุนายน ถึงวันที่ 18 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 7% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Elma Center คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 8.2 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Elma Center มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 3 เมษายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 12.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Elma Center คือเดือนมกราคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 16.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.3 เดือน ระหว่างวันที่ 3 เมษายน ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Elma Center คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 8.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Elma Center คือมาจากทิศตะวันตกตลอดปี

Elma Center ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.9 เดือน ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึงวันที่ 24 กันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 18°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน Elma Center คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 22°C

เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 6°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน Elma Center คือเดือนมีนาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 2°C

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Elma Center มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Elma Center เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Elma Center เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Elma Center จะมีเวลานาน 6.0 เดือน (181 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 22 เมษายน ถึงประมาณวันที่ 20 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 6 เมษายน หรือหลังวันที่ 7 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 9 พฤศจิกายน

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน Elma Center ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 21 เมษายน น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 8 เมษายน หรือหลังวันที่ 4 พฤษภาคม

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม ถึงวันที่ 22 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 5.8 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Elma Center คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.7 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.6 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 2.4 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Elma Center คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.3 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Elma Center คือละติจูดที่ 42.830° ลองจิจูดที่ -78.636° และระดับความสูง 243 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Elma Center มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 81 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 248 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (298 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (658 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Elma Center ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (67%) พื้นที่เพาะปลูก (17%) และพื้นผิวเทียม (15%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (49%)และพื้นผิวเทียม (35%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (38%)และพื้นที่เพาะปลูก (30%)