ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Saint Matthews รัฐเซาท์แคโรไลนา, สหรัฐอเมริกาใน Saint Matthews ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อนและร้อนอบอ้าว ฤดูหนาวมีลักษณะ สั้นและหนาว และ มีหยาดน้ำฟ้าตกมากและมีเมฆบางส่วน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 2°C ถึง 32°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -5°C หรือสูงกว่า 36°C คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Saint Matthews เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง เมษายน ถึงต้นเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงปลาย สิงหาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ยใน Saint Matthewsฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ถึงวันที่ 15 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 29°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Saint Matthews คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 32°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 22°C ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 17°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Saint Matthews คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 3°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 14°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว เมนโดซา, อาร์เจนตินา (ห่างออกไป 7,514 กิโลเมตร)และBaiyun, จีน (13,073 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Saint Matthews มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Saint Matthews มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Saint Matthews จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 23 สิงหาคม และมีระยะเวลานาน 3.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 25 พฤศจิกายน เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Saint Matthews คือ ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 64% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 25 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 8.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 23 สิงหาคม เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Saint Matthews คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 49% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Saint Matthews มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 34% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Saint Matthews คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 14.2 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 8.7 เดือน ระหว่างวันที่ 2 กันยายน ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Saint Matthews คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 6.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Saint Matthews คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 14.2 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 49% ในวันที่ 4 สิงหาคม
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Saint Matthews มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ปริมาณฝนตลอดปีใน Saint Matthews เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Saint Matthews คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 106 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Saint Matthews คือ พฤศจิกายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 63 มิลลิเมตร
ปริมาณหิมะเช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Saint Matthews มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 1.0 เดือน ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Saint Matthews คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 31 มิลลิเมตร ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 11 เดือน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 21 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน Saint Matthews แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 55 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 24 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 06:12 ในวันที่ 11 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 31 นาที ต่อมาที่เวลา 07:43 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:14 ในวันที่ 4 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 3 ชั่วโมง และ 23 นาที ต่อมาที่เวลา 20:37 ในวันที่ 29 มิถุนายน เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน Saint Matthews ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน Saint Matthews มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.8 เดือน ระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม ถึงวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 23% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Saint Matthews คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 27.6 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดใน Saint Matthews คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมี 0.1 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Saint Matthews มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.4 เดือน ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 11.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Saint Matthews คือเดือนมีนาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.6 เดือน ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Saint Matthews คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 9.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Saint Matthews มีความแตกต่างกันตลอดปี ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึงวันที่ 19 สิงหาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 40% ในวันที่ 13 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 2.5 เดือน ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม ถึงวันที่ 19 ธันวาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 13 ตุลาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม ถึงวันที่ 28 มีนาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 32% ในวันที่ 1 มกราคม เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Saint Matthews มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Saint Matthews เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง เมษายน ถึงต้นเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงปลาย สิงหาคม ถึงปลายเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคม คะแนนการท่องเที่ยว in Saint Matthewsคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Saint Matthews เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤษภาคม ถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน Saint Matthewsระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Saint Matthews จะมีเวลานาน 7.9 เดือน (240 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 16 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 11 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 6 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 24 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 30 พฤศจิกายน |