1. WeatherSpark.com
  2. สหรัฐอเมริกา
  3. รัฐเทนเนสซี

ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Falling Water รัฐเทนเนสซี, สหรัฐอเมริกา

ใน Falling Water ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อนและร้อนอบอ้าว ฤดูหนาวมีลักษณะ สั้น หนาวจัด และมีหยาดน้ำฟ้าตกมาก และ มีเมฆบางส่วน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -0°C ถึง 31°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -8°C หรือสูงกว่า 35°C

คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Falling Water เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง พฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงต้น สิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม

ภูมิอากาศใน Falling Water

หนาวเย็นกำลังสบายอุ่นร้อนอุ่นกำลังสบายเย็นหนาวม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.ขณะนี้ขณะนี้67%67%44%44%แจ่มใสมืดครึ้มปริมาณหยาดน้ำฟ้า : 126 มม.ปริมาณหยาดน้ำฟ้า : 126 มม.71 มม.71 มม.ร้อนอบอ้าว : 84%ร้อนอบอ้าว : 84%0%0%แห้งแห้งคะแนนการท่องเที่ยว : 6.5คะแนนการท่องเที่ยว : 6.50.70.7
สภาพอากาศรายเดือนของ Falling Water คลิกที่แต่ละแผนภูมิเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ถึงวันที่ 18 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 27°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Falling Water คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 31°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 21°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 2.9 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 14°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Falling Water คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 0°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 9°C

อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยและอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยใน Falling Water

อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยและอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยใน Falling Waterร้อนหนาวหนาวม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.-20°C-20°C-15°C-15°C-10°C-10°C-5°C-5°C0°C0°C5°C5°C10°C10°C15°C15°C20°C20°C25°C25°C30°C30°C35°C35°C40°C40°C25 ม.ค.10°C25 ม.ค.10°C21 ก.ค.31°C21 ก.ค.31°C-0°C-0°C21°C21°C25 พ.ค.27°C25 พ.ค.27°C18 ก.ย.27°C18 ก.ย.27°C27 พ.ย.14°C27 พ.ย.14°C25 ก.พ.14°C25 ก.พ.14°C16°C16°C16°C16°C4°C4°C3°C3°Cขณะนี้ขณะนี้
อุณหภูมิรายวันเฉลี่ยสูงสุด (เส้นสีแดง) และอุณหภูมิรายวันเฉลี่ยต่ำสุด (เส้นสีน้ำเงิน) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางเป็นอุณหภูมิที่รับรู้เฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
เฉลี่ยม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
สูง 9°C12°C17°C22°C26°C29°C31°C31°C27°C22°C16°C11°C
อุณหภูมิ 4°C6°C11°C15°C20°C24°C26°C25°C22°C15°C10°C6°C
ต่ำ 0°C2°C6°C10°C15°C19°C21°C20°C17°C10°C5°C2°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Falling Water

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0000020204040606080810101212141416161818202022220000ขณะนี้ขณะนี้หนาวจัดหนาวจัดหนาวจัดหนาวจัดหนาวหนาวเย็นเย็นกำลังสบายอุ่นร้อนอุ่น
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ซึ่งเข้ารหัสสีเป็นแถบ โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

พอดกอรีตซา, มอนเตเนโกร (ห่างออกไป 8,487 กิโลเมตร)และLuoqiao, จีน (12,712 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Falling Water มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

แผนที่
หมุดแผนที่
© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Falling Water กับอีกเมืองหนึ่ง :

แผนที่

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Falling Water มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Falling Water จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 13 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 5.2 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 18 พฤศจิกายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Falling Water คือ กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 65% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 18 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 6.8 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 13 มิถุนายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Falling Water คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 54% ของเวลา

ประเภทเมฆปกคลุม ใน Falling Water

ประเภทเมฆปกคลุม ใน Falling Waterแจ่มใสกว่ามืดครึ้มกว่ามืดครึ้มกว่าม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%19 ก.ย.67%19 ก.ย.67%3 ม.ค.44%3 ม.ค.44%13 มิ.ย.55%13 มิ.ย.55%18 พ.ย.56%18 พ.ย.56%ขณะนี้ขณะนี้แจ่มใสแจ่มใสเป็นส่วนมากมีเมฆบางส่วนมีเมฆเป็นส่วนมากมืดครึ้ม
0% แจ่มใส 20% แจ่มใสเป็นส่วนมาก 40% มีเมฆบางส่วน 60% มีเมฆเป็นส่วนมาก 80% มืดครึ้ม 100%
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแต่ละแถบเมฆปกคลุม โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ของท้องฟ้าที่มีเมฆปกคลุม
สัดส่วนม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
มืดครึ้มกว่า 54%52%50%45%45%44%41%35%35%35%44%53%
แจ่มใสกว่า 46%48%50%55%55%56%59%65%65%65%56%47%

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Falling Water มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 5.6 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 22 สิงหาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 32% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Falling Water คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 12.7 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 6.4 เดือน ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 มีนาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Falling Water คือ ตุลาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 6.9 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Falling Water คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 12.7 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 43% ในวันที่ 8 กรกฎาคม

โอกาสที่จะมีหยาดน้ำฟ้าในแต่ละวันใน Falling Water

โอกาสที่จะมีหยาดน้ำฟ้าในแต่ละวันใน Falling Waterมีหยาดน้ำฟ้าตกมากแห้งแห้งม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0%0%10%10%20%20%30%30%40%40%50%50%60%60%70%70%80%80%90%90%100%100%8 ก.ค.43%8 ก.ค.43%15 ต.ค.21%15 ต.ค.21%1 มี.ค.32%1 มี.ค.32%22 ส.ค.32%22 ส.ค.32%ขณะนี้ขณะนี้ฝนปนกัน
เปอร์เซ็นต์ของวันที่ซึ่งพบว่ามีหยาดน้ำฟ้าหลายชนิด โดยไม่รวมปริมาณที่น้อยมาก : ฝนล้วน หิมะล้วน และผสม (ทั้งฝนและหิมะตกในวันเดียวกัน)
จำนวนวันที่มีม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
ฝน 8.2วัน8.0วัน9.6วัน9.6วัน11.2วัน12.2วัน12.7วัน10.5วัน7.8วัน6.9วัน8.1วัน9.0วัน
ปนกัน 0.8วัน0.7วัน0.2วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.2วัน
หิมะ 0.3วัน0.1วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.1วัน
ไม่จำกัด 9.3วัน8.8วัน9.9วัน9.6วัน11.2วัน12.2วัน12.7วัน10.5วัน7.8วัน6.9วัน8.2วัน9.3วัน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Falling Water มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ปริมาณฝนตลอดปีใน Falling Water เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Falling Water คือ ธันวาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 118 มิลลิเมตร

เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Falling Water คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 72 มิลลิเมตร

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือน ใน Falling Water

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายเดือน ใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0 มม.0 มม.50 มม.50 มม.100 มม.100 มม.150 มม.150 มม.200 มม.200 มม.250 มม.250 มม.1 ธ.ค.125 มม.1 ธ.ค.125 มม.21 ส.ค.71 มม.21 ส.ค.71 มม.10 มี.ค.115 มม.10 มี.ค.115 มม.16 ม.ค.106 มม.16 ม.ค.106 มม.30 มิ.ย.90 มม.30 มิ.ย.90 มม.21 ก.ย.88 มม.21 ก.ย.88 มม.ขณะนี้ขณะนี้
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณหิมะเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
ปริมาณน้ำฝน 105.6มม.110.6มม.114.8มม.107.1มม.91.2มม.86.4มม.85.0มม.71.6มม.85.6มม.76.7มม.107.1มม.117.9มม.

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Falling Water มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 1.8 เดือน ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Falling Water คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 43 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 10 เดือน ระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 28 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะเฉลี่ยรายเดือนใน Falling Water

ปริมาณหิมะเฉลี่ยรายเดือนใน Falling Waterหิมะม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0 มม.0 มม.50 มม.50 มม.100 มม.100 มม.150 มม.150 มม.21 ม.ค.45 มม.21 ม.ค.45 มม.28 ก.ค.0 มม.28 ก.ค.0 มม.25 ธ.ค.25 มม.25 ธ.ค.25 มม.18 ก.พ.25 มม.18 ก.พ.25 มม.ขณะนี้ขณะนี้
ปริมาณหิมะเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
ปริมาณหิมะ 43.3มม.28.7มม.7.0มม.0.5มม.0.0มม.0.0มม.0.0มม.0.0มม.0.0มม.0.0มม.1.2มม.16.3มม.

ความยาวของวันใน Falling Water แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 47 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 32 นาที

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาใน Falling Water

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0 ชม.24 ชม.4 ชม.20 ชม.8 ชม.16 ชม.12 ชม.12 ชม.16 ชม.8 ชม.20 ชม.4 ชม.24 ชม.0 ชม.12 ชม. 7 นาที19 มี.ค.12 ชม. 7 นาที19 มี.ค.14 ชม. 32 นาที20 มิ.ย.14 ชม. 32 นาที20 มิ.ย.12 ชม. 10 นาที22 ก.ย.12 ชม. 10 นาที22 ก.ย.9 ชม. 47 นาที21 ธ.ค.9 ชม. 47 นาที21 ธ.ค.กลางคืนกลางคืนกลางวันขณะนี้ขณะนี้
จำนวนชั่วโมงที่มองเห็นดวงอาทิตย์ (เส้นสีดำ) จากด้านล่าง (สีเหลืองมากที่สุด) ไปด้านบน (สีเทามากที่สุด) แถบสีแสดง : เวลากลางวันเต็มที่, สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และเวลากลางคืนเต็มที่
จำนวนชั่วโมงที่มีม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
แสงสว่างกลางวัน 10.1ชม.10.9ชม.12.0ชม.13.1ชม.14.0ชม.14.5ชม.14.2ชม.13.4ชม.12.4ชม.11.3ชม.10.3ชม.9.8ชม.

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 06:25 ในวันที่ 12 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 38 นาที ต่อมาที่เวลา 08:03 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:28 ในวันที่ 5 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 3 ชั่วโมง และ 31 นาที ต่อมาที่เวลา 20:59 ในวันที่ 28 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน Falling Water ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาและเวลาออมแสงใน Falling Water

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาและเวลาออมแสงใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.02040608101214161820220012 มิ.ย.06:2512 มิ.ย.06:2520:5928 มิ.ย.20:5928 มิ.ย.5 ธ.ค.17:285 ธ.ค.17:2808:032 พ.ย.08:032 พ.ย.10 มี.ค.เวลาออมแสง10 มี.ค.เวลาออมแสงเวลาออมแสง3 พ.ย.เวลาออมแสง3 พ.ย.กลางวันกลางคืนกลางคืนกลางคืนเที่ยงคืนสุริยะเที่ยงคืนสุริยะเที่ยงสุริยะพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกขณะนี้ขณะนี้
วันสุริยะคติตลอดช่วงปี พ.ศ. 2567 จากด้านล่างไปด้านบน เส้นสีดำคือ เที่ยงคืนสุริยะก่อนหน้านี้ อาทิตย์ขึ้น เที่ยงสุริยะ อาทิตย์ตก และเที่ยงคืนสุริยะครั้งถัดไป กลางวัน สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และกลางคืนแสดงให้เห็นด้วยแถบสีจากสีเหลืองไปยังสีเทา การเปลี่ยนผ่านไปยังและจากเวลาออมแสงจะมีข้อความกำกับว่า 'ออมแสง'

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศ ใน Falling Water

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศ ใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.000002020404060608081010121214141616181820202222000000010101010202020303030404040505060607000010101020202020303030404040505060703178ขณะนี้ขณะนี้
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศตลอดช่วงปี พ.ศ. 2567 เส้นสีดำเป็นเส้นแสดงระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า ในหน่วยองศา) สีที่เติมบนพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศ (ทิศทางที่มุ่งหน้าตามเข็มทิศ) ของดวงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตของจุดหลักสี่จุดบนเข็มทิศระบุทิศทางระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมใน Falling Water

เวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า (พื้นที่สีน้ำเงินอ่อน) โดยระบุเวลาที่จันทร์ดับ (เส้นสีเทาเข้ม) และจันทร์เต็มดวง (เส้นสีน้ำเงิน) โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

Falling Water มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.2 เดือน ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม ถึงวันที่ 26 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 21% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Falling Water คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 24.8 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดใน Falling Water คือเดือนมกราคม โดยมี 0.0 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

ระดับความสบายต่อความชื้น ใน Falling Water

ระดับความสบายต่อความชื้น ใน Falling Waterร้อนชื้นม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0%0%10%10%20%20%30%30%40%40%50%50%60%60%70%70%80%80%90%90%100%100%18 ม.ค.0%18 ม.ค.0%84%23 ก.ค.84%23 ก.ค.19 พ.ค.21%19 พ.ค.21%26 ก.ย.21%26 ก.ย.21%ขณะนี้ขณะนี้ร้อนและไม่มีลมร้อนและไม่มีลมร้อนอบอ้าวร้อนอบอ้าวอบอ้าวอบอ้าวแห้งแห้งกำลังสบายกำลังสบาย
แห้ง 13°C กำลังสบาย 16°C อบอ้าว 18°C ร้อนอบอ้าว 21°C ร้อนและไม่มีลม 24°C มีความชื้นสูงมาก
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในระดับความสบายต่อความชื้นต่าง ๆ โดยแบ่งตามจุดน้ำค้าง
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
วันที่ร้อนอบอ้าว 0.0วัน0.0วัน0.0วัน0.4วัน5.6วัน16.9วัน24.8วัน22.5วัน11.0วัน1.9วัน0.2วัน0.0วัน

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Falling Water มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.5 เดือน ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 11 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 7.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Falling Water คือเดือนมีนาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 8.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.5 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม ถึงวันที่ 26 ตุลาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Falling Water คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 5.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยใน Falling Water

ความเร็วลมเฉลี่ยใน Falling Waterลมแรงลมแรงม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0 กม./ชม.0 กม./ชม.2 กม./ชม.2 กม./ชม.4 กม./ชม.4 กม./ชม.6 กม./ชม.6 กม./ชม.8 กม./ชม.8 กม./ชม.10 กม./ชม.10 กม./ชม.12 กม./ชม.12 กม./ชม.14 กม./ชม.14 กม./ชม.25 ก.พ.9.0 กม./ชม.25 ก.พ.9.0 กม./ชม.31 ก.ค.5.2 กม./ชม.31 ก.ค.5.2 กม./ชม.26 ต.ค.7.1 กม./ชม.26 ต.ค.7.1 กม./ชม.11 พ.ค.7.1 กม./ชม.11 พ.ค.7.1 กม./ชม.ขณะนี้ขณะนี้
ค่าเฉลี่ยของความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง (เส้นสีเทาเข้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
ความเร็วลม (kph) 8.48.88.98.26.95.85.45.36.06.97.68.0

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Falling Water มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 1.9 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 22 มกราคม ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เป็นเวลา 1.3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเป็นเวลา 2.0 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึงวันที่ 12 สิงหาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 29 มกราคม ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 1.3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นเวลา 4.1 เดือน ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 26 มิถุนายน และเป็นเวลา 5.3 เดือน ระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม ถึงวันที่ 22 มกราคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 42% ในวันที่ 3 พฤษภาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 1.1 เดือน ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 35% ในวันที่ 13 กรกฎาคม

ทิศทางลมใน Falling Water

ทิศทางลมใน Falling Waterต.น.ต.น.ต.ต.ต.น.ต.ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0%100%20%80%40%60%60%40%80%20%100%0%ขณะนี้ขณะนี้ตะวันตกใต้เหนือตะวันออก
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ซึ่งทิศทางลมเฉลี่ยมาจากทิศหลักของลมทั้ง 4 ทิศ โดยไม่รวมถึงจำนวนชั่วโมงที่มีความเร็วลมเฉลี่ยน้อยกว่า 1.6 กม./ชม. พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตคือเปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ใช้ไปกับทิศระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Falling Water มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Falling Water เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง พฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงต้น สิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน

คะแนนการท่องเที่ยว in Falling Water

คะแนนการท่องเที่ยว in Falling Waterเวลาที่ดีที่สุดเวลาที่ดีที่สุดม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.002244668810106.56.50.70.76.06.05.45.4ขณะนี้ขณะนี้หยาดน้ำฟ้าหยาดน้ำฟ้าอุณหภูมิอุณหภูมิเมฆเมฆคะแนนการท่องเที่ยว
คะแนนการท่องเที่ยว (พื้นที่สีทึบ) และองค์ประกอบต่าง ๆ อันได้แก่ : คะแนนอุณหภูมิ (เส้นสีแดง) คะแนนเมฆปกคลุม (เส้นสีน้ำเงิน) และคะแนนหยาดน้ำฟ้า (เส้นสีเขียว)

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Falling Water เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน Falling Water

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน Falling Waterเวลาที่ดีที่สุดม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.002244668810106.36.30.00.0ขณะนี้ขณะนี้หยาดน้ำฟ้าหยาดน้ำฟ้าอุณหภูมิอุณหภูมิ เมฆเมฆคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ
คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ (พื้นที่สีทึบ) และองค์ประกอบต่าง ๆ อันได้แก่ : คะแนนอุณหภูมิ (เส้นสีแดง) คะแนนเมฆปกคลุม (เส้นสีน้ำเงิน) และคะแนนหยาดน้ำฟ้า (เส้นสีเขียว)

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Falling Water จะมีเวลานาน 7.4 เดือน (227 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 25 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 7 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 4 มีนาคม หรือหลังวันที่ 14 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 20 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 25 พฤศจิกายน

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกใน Falling Water

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกใน Falling Waterฤดูกาลเพาะปลูกม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%50%25 มี.ค.50%25 มี.ค.50%7 พ.ย.50%7 พ.ย.90%14 เม.ย.90%14 เม.ย.90%20 ต.ค.90%20 ต.ค.10%4 มี.ค.10%4 มี.ค.10%25 พ.ย.10%25 พ.ย.0%22 ม.ค.0%22 ม.ค.18 ก.ค.100%18 ก.ค.100%ขณะนี้ขณะนี้หนาวจัดหนาวเย็นกำลังสบายอุ่นร้อน
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ เส้นสีดำคือโอกาสเป็นเปอร์เซ็นต์ที่วันหนึ่ง ๆ จะอยู่ในช่วงฤดูเพาะปลูก

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน Falling Water ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 26 กุมภาพันธ์ น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 14 มีนาคม

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกใน Falling Water

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกใน Falling Waterม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0°C0°C500°C500°C1,000°C1,000°C1,500°C1,500°C2,000°C2,000°C2,500°C2,500°C26 ก.พ.48°C26 ก.พ.48°C18 พ.ค.500°C18 พ.ค.500°C26 มิ.ย.1,000°C26 มิ.ย.1,000°C31 ธ.ค.2,628°C31 ธ.ค.2,628°Cขณะนี้ขณะนี้
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยที่สะสมตลอดระยะเวลาทั้งปี พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างมากตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 1 กันยายน โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 5.8 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Falling Water คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.6 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.9 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 3.2 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Falling Water คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.4 กว.-ชม.

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Falling Water

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Falling Waterสว่างมืดมืดม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.0 กว.-ชม.0 กว.-ชม.1 กว.-ชม.1 กว.-ชม.2 กว.-ชม.2 กว.-ชม.3 กว.-ชม.3 กว.-ชม.4 กว.-ชม.4 กว.-ชม.5 กว.-ชม.5 กว.-ชม.6 กว.-ชม.6 กว.-ชม.7 กว.-ชม.7 กว.-ชม.8 กว.-ชม.8 กว.-ชม.9 กว.-ชม.9 กว.-ชม.22 มิ.ย.6.7 กว.-ชม.22 มิ.ย.6.7 กว.-ชม.23 ธ.ค.2.3 กว.-ชม.23 ธ.ค.2.3 กว.-ชม.14 เม.ย.5.8 กว.-ชม.14 เม.ย.5.8 กว.-ชม.1 ก.ย.5.8 กว.-ชม.1 ก.ย.5.8 กว.-ชม.7 ก.พ.3.2 กว.-ชม.7 ก.พ.3.2 กว.-ชม.ขณะนี้ขณะนี้
ค่าพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นรายวันโดยเฉลี่ยที่ตกกระทบพื้นดินต่อตารางเมตร (เส้นสีส้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90
ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.
พลังงานแสงอาทิตย์ (kWh) 2.63.54.65.86.56.66.66.25.44.23.12.4

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Falling Water คือละติจูดที่ 35.203° ลองจิจูดที่ -85.254° และระดับความสูง 209 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Falling Water มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 421 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 340 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเช่นกัน (529 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,135 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Falling Water ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (89%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (74%)และพื้นผิวเทียม (12%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (67%)และพื้นที่เพาะปลูก (27%)

รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน Falling Water โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559

อุณหภูมิและจุดน้ำค้าง

มีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ 3 แห่งที่อยู่ใกล้เพียงพอที่จะส่งผลต่อการประมาณค่าอุณหภูมิและจุดน้ำค้างของเราในเมือง Falling Water

ในแต่ละสถานี บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีนั้นกับ Falling Water ตาม บรรยากาศมาตรฐานสากล , และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน การวิเคราะห์ซ้ำในยุคดาวเทียม MERRA-2 ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง

ค่าโดยประมาณที่เมือง Falling Water ได้รับการคำนวณเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของแต่ละค่าที่ได้รับจากแต่ละสถานี โดยมีค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเป็นสัดส่วนผกผันกับระยะห่างระหว่างเมือง Falling Water กับสถานีที่กำหนดไว้

สถานีที่มีส่วนช่วยในการสร้างครั้งนี้ได้แก่:

  • Lovell Field (KCHA, 81%, 19 กม., ใต้, ระดับความสูงเปลี่ยนไป -5 ม.)
  • Winchester Municipal Airport (KBGF, 11%, 74 กม., ตะวันตก, ระดับความสูงเปลี่ยนไป 89 ม.)
  • Crossville Memorial Airport (KCSV, 8%, 85 กม., เหนือ, ระดับความสูงเปลี่ยนไป 360 ม.)

หากต้องการทำความเข้าใจว่าแหล่งข้อมูลเหล่านี้ให้ข้อมูลที่ตรงกันมากน้อยเพียงใด คุณสามารถดูการเปรียบเทียบระหว่าง Falling Water กับสถานีที่ช่วยให้เราประมาณสถิติอุณหภูมิและสภาพอากาศ โปรดทราบว่า ข้อมูลจากแต่ละแหล่งได้รับการปรับให้เหมาะสมกับระดับความสูงและการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ในข้อมูล MERRA-2 แล้ว

ข้อมูลอื่น ๆ

ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus

ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร

ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่

ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่

ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames

AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ

แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม

ข้อสงวนสิทธิ์

ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้

เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก

เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ

กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา