ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน สหรัฐอเมริกาใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น กำลังสบาย แห้ง และแจ่มใสเป็นส่วนมาก และฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -16°C ถึง 25°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -26°C หรือสูงกว่า 29°C คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนฤดูกาลที่อบอุ่นมีระยะเวลา 2.9 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 19°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 24°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 6°C ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 3 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 1°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -15°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ -4°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 11 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 4.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 11 ตุลาคม เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 77% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 11 ตุลาคม และมีระยะเวลานาน 8.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 11 มิถุนายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 60% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 7.0 เดือน ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 16 มิถุนายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 28% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ พฤษภาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 10.7 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 5.0 เดือน ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน ถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ กันยายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 5.5 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี ฝนล้วน6.7 เดือน12 เมษายน3 พฤศจิกายน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ พฤษภาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 8.7 วัน หิมะล้วน4.2 เดือน3 พฤศจิกายน11 มีนาคม เดือนที่มีหิมะล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ ธันวาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5.9 วัน หิมะผสมฝน1.1 เดือน11 มีนาคม12 เมษายน เดือนที่มีหิมะผสมฝนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ เมษายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 3.1 วัน
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 8.2 เดือน ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ พฤษภาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 49 มิลลิเมตร ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.8 เดือน ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 19 มีนาคม เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ มกราคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 4 มิลลิเมตร
ปริมาณหิมะเช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.0 เดือน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ ธันวาคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 334 มิลลิเมตร ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.0 เดือน ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันที่ 29 กันยายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 8 สิงหาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 8 ชั่วโมง และ 50 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 33 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:37 ในวันที่ 14 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 25 นาที ต่อมาที่เวลา 08:01 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:42 ในวันที่ 9 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 28 นาที ต่อมาที่เวลา 21:11 ในวันที่ 25 มิถุนายน เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน ระดับความชื้นที่รับรู้ ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.9 เดือน ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 8.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือเดือนธันวาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 8.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.1 เดือน ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม ถึงวันที่ 19 ตุลาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 7.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือมาจากทิศใต้ตลอดปี เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนการท่องเที่ยว in อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง กรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน จะมีเวลานาน 2.3 เดือน (71 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 23 มิถุนายน ถึงประมาณวันที่ 2 กันยายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 5 มิถุนายน หรือหลังวันที่ 11 กรกฎาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 10 สิงหาคม หรือหลังวันที่ 21 กันยายน ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 5 มิถุนายน น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 21 พฤษภาคม หรือหลังวันที่ 22 มิถุนายน พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม ถึงวันที่ 18 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 6.8 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือเดือนกรกฎาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.8 กว.-ชม. ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.4 เดือน ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 2.9 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.7 กว.-ชม.
ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน คือละติจูดที่ 44.428° ลองจิจูดที่ -110.588° และระดับความสูง 0 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 0 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (66%) น้ำ (23%) และพุ่มไม้ (11%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (60%)และพุ่มไม้ (24%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (47%)และพุ่มไม้ (38%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 รายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่ใช้สำหรับรายงานฉบับนี้มีให้ดูได้ที่หน้า West Yellowstone ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา |