ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน นครรัฐวาติกัน นครวาติกันใน นครรัฐวาติกัน ฤดูร้อนมีลักษณะ สั้น ร้อน อบอ้าว แห้ง และแจ่มใสเป็นส่วนมาก และฤดูหนาวมีลักษณะ ยาวนาน หนาว มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 2°C ถึง 32°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -3°C หรือสูงกว่า 35°C คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว นครรัฐวาติกัน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงปลายเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยใน นครรัฐวาติกันฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 2.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ถึงวันที่ 9 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 28°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือ สิงหาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 31°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 18°C ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 3.9 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 15 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 16°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 2°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 12°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน นครรัฐวาติกัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน นครรัฐวาติกัน จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 8 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 3.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 11 กันยายน เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 87% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 11 กันยายน และมีระยะเวลานาน 8.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 8 มิถุนายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือ พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 47% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน นครรัฐวาติกัน มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 8.1 เดือน ระหว่างวันที่ 7 กันยายน ถึงวันที่ 11 พฤษภาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 20% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 9.4 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 3.9 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 2.8 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 9.3 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 33% ในวันที่ 18 พฤศจิกายน
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน นครรัฐวาติกัน มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล ปริมาณฝนตลอดปีใน นครรัฐวาติกัน เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือ พฤศจิกายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 92 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือ กรกฎาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 17 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน นครรัฐวาติกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 8 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 14 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:34 ในวันที่ 14 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 4 นาที ต่อมาที่เวลา 07:38 ในวันที่ 4 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:38 ในวันที่ 8 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 11 นาที ต่อมาที่เวลา 20:49 ในวันที่ 27 มิถุนายน เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน นครรัฐวาติกัน ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 31 มีนาคม เป็นเวลานาน 6.9 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 27 ตุลาคม รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน นครรัฐวาติกัน มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.7 เดือน ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน ถึงวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 12% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน นครรัฐวาติกัน คือเดือนสิงหาคม โดยมี 13.9 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน นครรัฐวาติกัน มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึงวันที่ 29 เมษายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 12.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือเดือนมีนาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 9.0 เดือน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึงวันที่ 27 มกราคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 11.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน นครรัฐวาติกัน มีความแตกต่างกันตลอดปี ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 2.4 เดือน ระหว่างวันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 16 พฤษภาคมและเป็นเวลา 1.7 เดือน ระหว่างวันที่ 17 กันยายน ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 17 ตุลาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 4.0 เดือน ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึงวันที่ 17 กันยายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 43% ในวันที่ 23 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 3.8 เดือน ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 3 มีนาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 33% ในวันที่ 1 มกราคม อุณหภูมิน้ำนครรัฐวาติกัน ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน ถึงวันที่ 21 กันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 23°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 25°C เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม ถึงวันที่ 28 เมษายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 16°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน นครรัฐวาติกัน คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 14°C
เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน นครรัฐวาติกัน มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว นครรัฐวาติกัน เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น พฤษภาคม ถึงกลางเดือนกรกฎาคมและตั้งแต่ช่วงปลาย สิงหาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน คะแนนการท่องเที่ยว in นครรัฐวาติกันคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว นครรัฐวาติกัน เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคม คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน นครรัฐวาติกันระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน นครรัฐวาติกัน จะมีเวลานาน 8.8 เดือน (270 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 5 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 30 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 28 มีนาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 9 พฤศจิกายน หรือหลังวันที่ 22 ธันวาคม |