ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีที่ Bowers Field รัฐวอชิงตัน, สหรัฐอเมริกาที่ Bowers Field ฤดูร้อนมีลักษณะ อุ่น แห้ง และแจ่มใสเป็นส่วนมาก และฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -5°C ถึง 31°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -13°C หรือสูงกว่า 37°C คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Bowers Field เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม อุณหภูมิเฉลี่ยที่ Bowers Fieldฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 25°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีที่ Bowers Field คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 30°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 14°C ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 7°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีที่ Bowers Field คือ ธันวาคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -5°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 2°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว Липково, มาซิโดเนีย (ห่างออกไป 9,429 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Bowers Field มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆที่ Bowers Field มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ที่ Bowers Field จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 8 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 3.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 6 ตุลาคม เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีที่ Bowers Field คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 77% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 6 ตุลาคม และมีระยะเวลานาน 8.1 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 8 มิถุนายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีที่ Bowers Field คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 63% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากที่ Bowers Field มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 5.5 เดือน ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 มีนาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 21% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดที่ Bowers Field คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 10.6 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 6.5 เดือน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 16 ตุลาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดที่ Bowers Field คือ สิงหาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 1.6 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดที่ Bowers Field มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี ฝนล้วน11 เดือน16 มกราคม9 ธันวาคม เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดที่ Bowers Field คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 7.5 วัน หิมะล้วน1.2 เดือน9 ธันวาคม16 มกราคม เดือนที่มีหิมะล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดที่ Bowers Field คือ ธันวาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 4.2 วัน
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Bowers Field มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 9.2 เดือน ระหว่างวันที่ 13 กันยายน ถึงวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดที่ Bowers Field คือ พฤศจิกายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 54 มิลลิเมตร ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน ถึงวันที่ 13 กันยายน เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดที่ Bowers Field คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 7 มิลลิเมตร
ปริมาณหิมะเช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Bowers Field มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 มีนาคม โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดที่ Bowers Field คือ ธันวาคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 308 มิลลิเมตร ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.3 เดือน ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 26 ตุลาคม ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 16 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันที่ Bowers Field แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 8 ชั่วโมง และ 30 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 54 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:06 ในวันที่ 15 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 42 นาที ต่อมาที่เวลา 07:48 ในวันที่ 2 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:12 ในวันที่ 10 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 49 นาที ต่อมาที่เวลา 21:01 ในวันที่ 25 มิถุนายน เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ Bowers Field ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน ระดับความชื้นที่รับรู้ ที่ Bowers Field เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ Bowers Field มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.8 เดือน ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม ถึงวันที่ 5 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 9.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีที่ Bowers Field คือเดือนมิถุนายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 10.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.2 เดือน ระหว่างวันที่ 5 กันยายน ถึงวันที่ 12 มีนาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีที่ Bowers Field คือเดือนธันวาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 7.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ที่ Bowers Field คือมาจากทิศตะวันตกตลอดปี เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ที่ Bowers Field มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Bowers Field เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนการท่องเที่ยว at Bowers Fieldคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Bowers Field เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง กรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำที่ Bowers Fieldระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ที่ Bowers Field จะมีเวลานาน 5.6 เดือน (170 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 24 เมษายน ถึงประมาณวันที่ 11 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 2 เมษายน หรือหลังวันที่ 14 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 21 กันยายน หรือหลังวันที่ 30 ตุลาคม |