ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี อินเดีย

ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ฤดูที่หยาดน้ำฟ้าตกมากมีลักษณะ ร้อนระอุ ร้อนและไม่มีลม และมีเมฆบางส่วน และฤดูแล้งมีลักษณะ อุ่นและแจ่มใสเป็นส่วนมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 8°C ถึง 41°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 5°C หรือสูงกว่า 44°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายนและตั้งแต่ช่วงปลาย กันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 2.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 36°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ มิถุนายน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 39°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 29°C

ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 2.2 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 24°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 8°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 20°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 3 กันยายน และมีระยะเวลานาน 10 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 5 กรกฎาคม

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 95% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 5 กรกฎาคม และมีระยะเวลานาน 1.9 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 3 กันยายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 50% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 14 กันยายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 27% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 15.1 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 9.0 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กันยายน ถึงวันที่ 15 มิถุนายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ พฤศจิกายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.6 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 15.1 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 52% ในวันที่ 22 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 9.2 เดือน ระหว่างวันที่ 13 มกราคม ถึงวันที่ 18 ตุลาคม โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 162 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม ถึงวันที่ 13 มกราคม เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือ พฤศจิกายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 4 มิลลิเมตร

ความยาวของวันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี แตกต่างกันตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2568 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 19 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 13 ชั่วโมง และ 58 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:23 ในวันที่ 11 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 52 นาที ต่อมาที่เวลา 07:15 ในวันที่ 11 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:24 ในวันที่ 2 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 59 นาที ต่อมาที่เวลา 19:23 ในวันที่ 1 กรกฎาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ระหว่างปี พ.ศ. 2568

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2568 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.5 เดือน ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันที่ 16 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 25% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือเดือนสิงหาคม โดยมี 30.1 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมี 0.1 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 5.7 เดือน ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 11.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือเดือนมิถุนายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 6.4 เดือน ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี คือเดือนตุลาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 8.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 1.4 เดือน ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม ถึงวันที่ 27 สิงหาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 40% ในวันที่ 30 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 1.0 เดือน ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม ถึงวันที่ 27 กันยายนและเป็นเวลา 7.8 เดือน ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 16 กรกฎาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 35% ในวันที่ 30 สิงหาคม ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 1.9 เดือน ระหว่างวันที่ 27 กันยายน ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 41% ในวันที่ 4 พฤศจิกายน

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง ตุลาคม ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มีนาคม ถึงปลายเดือนเมษายนและตั้งแต่ช่วงปลาย กันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี