ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Crystal Lake รัฐอิลลินอยส์, สหรัฐอเมริกา

ใน Crystal Lake ฤดูร้อนมีลักษณะ อุ่นและมีหยาดน้ำฟ้าตกมาก ฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก และลมแรง และ มีเมฆบางส่วน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -10°C ถึง 28°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -21°C หรือสูงกว่า 33°C

คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Crystal Lake เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่อบอุ่นมีระยะเวลา 3.9 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ถึงวันที่ 18 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 22°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Crystal Lake คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 28°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 17°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.1 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 4°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Crystal Lake คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -9°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ -2°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Crystal Lake มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Crystal Lake จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 10 มิถุนายน และมีระยะเวลานาน 4.4 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 24 ตุลาคม

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Crystal Lake คือ สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 67% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 24 ตุลาคม และมีระยะเวลานาน 7.6 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 10 มิถุนายน

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Crystal Lake คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 57% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Crystal Lake มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 6.1 เดือน ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 2 ตุลาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 26% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Crystal Lake คือ มิถุนายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 11.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 5.9 เดือน ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม ถึงวันที่ 29 มีนาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Crystal Lake คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 4.5 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดใน Crystal Lake มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี

ฝนล้วน11 เดือน15 กุมภาพันธ์2 มกราคม เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Crystal Lake คือ มิถุนายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 11.0 วัน

หิมะล้วน1.4 เดือน2 มกราคม15 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีหิมะล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Crystal Lake คือ มกราคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2.2 วัน

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Crystal Lake มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ปริมาณฝนตลอดปีใน Crystal Lake เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Crystal Lake คือ มิถุนายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 96 มิลลิเมตร

เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Crystal Lake คือ มกราคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 16 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Crystal Lake มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 เมษายน โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Crystal Lake คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 124 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.3 เดือน ระหว่างวันที่ 2 เมษายน ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 18 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Crystal Lake แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 5 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 16 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:16 ในวันที่ 14 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 12 นาที ต่อมาที่เวลา 07:28 ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:20 ในวันที่ 8 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 4 ชั่วโมง และ 13 นาที ต่อมาที่เวลา 20:33 ในวันที่ 26 มิถุนายน

เวลาออมแสง (DST) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน Crystal Lake ระหว่างปี พ.ศ. 2567 โดยเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิในวันที่ 10 มีนาคม เป็นเวลานาน 7.8 เดือน และสิ้นสุดในฤดูใบไม้ร่วงในวันที่ 3 พฤศจิกายน

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

Crystal Lake มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.7 เดือน ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึงวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 10% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Crystal Lake คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 11.7 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Crystal Lake มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.7 เดือน ระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 16.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Crystal Lake คือเดือนมกราคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 20.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.3 เดือน ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 ตุลาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Crystal Lake คือเดือนสิงหาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Crystal Lake มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 1.4 เดือน ระหว่างวันที่ 4 มีนาคม ถึงวันที่ 17 เมษายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 30% ในวันที่ 7 มีนาคม ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน เป็นเวลา 2.4 เดือน ระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม ถึงวันที่ 15 ตุลาคม และเป็นเวลา 1.1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 36% ในวันที่ 5 กันยายน ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 1.2 เดือน ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึงวันที่ 4 สิงหาคม เป็นเวลา 2.9 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน และเป็นเวลา 3.7 เดือน ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 4 มีนาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 1 พฤศจิกายน

Crystal Lake ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.6 เดือน ระหว่างวันที่ 4 กรกฎาคม ถึงวันที่ 24 กันยายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 18°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน Crystal Lake คือเดือนสิงหาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 22°C

เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 5.1 เดือน ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 6°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน Crystal Lake คือเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 2°C

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Crystal Lake มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Crystal Lake เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง มิถุนายน ถึงต้นเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Crystal Lake เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น