ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน บางปะกง ไทยใน บางปะกง ฤดูฝนมีลักษณะ ร้อนและไม่มีลมและมืดครึ้ม ฤดูแล้งมีลักษณะ ร้อนชื้นและมีเมฆบางส่วน และ ร้อน ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 21°C ถึง 35°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 37°C คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว บางปะกง เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤศจิกายน ถึงต้นเดือนมีนาคม อุณหภูมิเฉลี่ยใน บางปะกงฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 1.6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 34°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน บางปะกง คือ เมษายน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 35°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 27°C ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 4.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน ถึงวันที่ 26 มกราคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 32°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน บางปะกง คือ ธันวาคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 22°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 32°C
ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงตลอดทั้งปี แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว San Pedro Tapanatepec, เม็กซิโก (ห่างออกไป 16,312 กิโลเมตร) มาราไกโบ, เวเนซุเอลา (17,221 กิโลเมตร) และBuriti dos Lopes, รัฐปีเอาอี, บราซิล (15,794 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ บางปะกง มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน บางปะกง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน บางปะกง จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 11 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 4.5 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 29 มีนาคม เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน บางปะกง คือ มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 56% ของเวลา ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 29 มีนาคม และมีระยะเวลานาน 7.4 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 11 พฤศจิกายน เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน บางปะกง คือ มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 92% ของเวลา
หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน บางปะกง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 5.9 เดือน ระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึงวันที่ 28 ตุลาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 36% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน บางปะกง คือ กันยายน โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 20.4 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 6.1 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน บางปะกง คือ ธันวาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.9 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน บางปะกง คือ กันยายน โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 20.4 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 71% ในวันที่ 25 กันยายน
ปริมาณน้ำฝนเราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน บางปะกง มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 9.6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 ธันวาคม โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน บางปะกง คือ กันยายน โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 242 มิลลิเมตร ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.4 เดือน ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน บางปะกง คือ ธันวาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 5 มิลลิเมตร
ดวงอาทิตย์ความยาวของวันใน บางปะกง แตกต่างกันตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2568 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 20 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 56 นาที
พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:47 ในวันที่ 2 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 56 นาที ต่อมาที่เวลา 06:43 ในวันที่ 24 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:45 ในวันที่ 20 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 2 นาที ต่อมาที่เวลา 18:47 ในวันที่ 10 กรกฎาคม ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน บางปะกง ระหว่างปี พ.ศ. 2568 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2568 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน บางปะกง มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 11 เดือน ระหว่างวันที่ 21 มกราคม ถึงวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 61% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดใน บางปะกง คือเดือนธันวาคม โดยมี 16.6 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น
ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน บางปะกง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.5 เดือน ระหว่างวันที่ 21 มกราคม ถึงวันที่ 5 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 10.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน บางปะกง คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 13.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.5 เดือน ระหว่างวันที่ 5 กันยายน ถึงวันที่ 21 มกราคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน บางปะกง คือเดือนตุลาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 9.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน บางปะกง มีความแตกต่างกันตลอดปี ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 4.9 เดือน ระหว่างวันที่ 24 มกราคม ถึงวันที่ 21 มิถุนายนและเป็นเวลา 1.6 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน ถึงวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 84% ในวันที่ 27 มีนาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 3.2 เดือน ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน ถึงวันที่ 28 กันยายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 62% ในวันที่ 18 สิงหาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม ถึงวันที่ 24 มกราคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 50% ในวันที่ 1 มกราคม อุณหภูมิน้ำบางปะกง ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี เวลาของปีที่น้ำอุ่นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.6 เดือน ระหว่างวันที่ 10 เมษายน ถึงวันที่ 27 มิถุนายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 30°C เดือนที่น้ำมีความอุ่นมากที่สุดของปีใน บางปะกง คือเดือนพฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 30°C เวลาของปีที่น้ำเย็นกว่าปกติมีระยะเวลานาน 2.0 เดือน ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม ถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 28°C เดือนที่น้ำมีความเย็นมากที่สุดของปีใน บางปะกง คือเดือนมกราคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่ากับ 27°C
เวลาของปีที่น่าไปเที่ยวที่สุดเราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน บางปะกง มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว บางปะกง เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น ธันวาคม ถึงปลายเดือนมกราคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม คะแนนการท่องเที่ยว in บางปะกงคะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว บางปะกง เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤศจิกายน ถึงต้นเดือนมีนาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำใน บางปะกงระเบียบวิธีในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่ คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) อุณหภูมิ ใน บางปะกง มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C |