ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Kambar ปากีสถาน

ใน Kambar ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อนระอุ ฤดูหนาวมีลักษณะ สั้นและเย็น และ แห้งและแจ่มใสเป็นส่วนมาก ตลอดปี ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ 8°C ถึง 45°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า 5°C หรือสูงกว่า 48°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Kambar เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย กันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.0 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 40°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Kambar คือ มิถุนายน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 44°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 30°C

ฤดูกาลที่เย็นมีระยะเวลา 2.8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 27°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Kambar คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 9°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 23°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Kambar มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Kambar จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 25 สิงหาคม และมีระยะเวลานาน 3.4 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 4 ธันวาคม

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Kambar คือ ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 95% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 4 ธันวาคม และมีระยะเวลานาน 8.6 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 25 สิงหาคม

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Kambar คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 29% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Kambar มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 1.5 เดือน ระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม ถึงวันที่ 23 สิงหาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 6% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Kambar คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 2.8 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 10 เดือน ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Kambar คือ ตุลาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.3 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Kambar คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2.8 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 12% ในวันที่ 25 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Kambar มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 1.9 เดือน ระหว่างวันที่ 8 กรกฎาคม ถึงวันที่ 3 กันยายน โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Kambar คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 18 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 10 เดือน ระหว่างวันที่ 3 กันยายน ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Kambar คือ ตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 1 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Kambar แตกต่างกันตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 24 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 13 ชั่วโมง และ 53 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:31 ในวันที่ 9 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 48 นาที ต่อมาที่เวลา 07:19 ในวันที่ 12 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:32 ในวันที่ 1 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 1 ชั่วโมง และ 55 นาที ต่อมาที่เวลา 19:27 ในวันที่ 2 กรกฎาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Kambar ระหว่างปี พ.ศ. 2567

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

Kambar มีความชื้นที่รับรู้ได้แตกต่างกันอย่างยิ่งตามฤดูกาล

ช่วงที่ร้อนอบอ้าวมากกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.2 เดือน ระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่มีระดับความสบายเป็น ร้อนอบอ้าว หรือร้อนและไม่มีลม หรือมีความชื้นสูงมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 18% ของเวลาทั้งหมด เดือนที่มีวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดใน Kambar คือเดือนกรกฎาคม โดยมี 20.4 วัน ที่ร้อนอบอ้าวหรือหนักกว่านั้น

วันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยที่แทบไม่รู้สึกว่ามีสภาพร้อนอบอ้าวเลย

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Kambar มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 11.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Kambar คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 15.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.7 เดือน ระหว่างวันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 23 พฤษภาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Kambar คือเดือนพฤศจิกายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 7.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Kambar มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 5.3 เดือน ระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึงวันที่ 8 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 66% ในวันที่ 4 กรกฎาคม ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 6.7 เดือน ระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 50% ในวันที่ 1 มกราคม

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Kambar มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Kambar เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง กุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนมีนาคมและตั้งแต่ช่วงกลาง ตุลาคม ถึงต้นเดือนธันวาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Kambar เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย กันยายน ถึงปลายเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Kambar มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างมากตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 16 เมษายน ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 7.1 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Kambar คือเดือนพฤษภาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.7 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 4.7 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Kambar คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.9 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Kambar คือละติจูดที่ 27.588° ลองจิจูดที่ 68.001° และระดับความสูง 53 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Kambar มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 17 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 48 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (42 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (2,127 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Kambar ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (77%)และพื้นผิวเทียม (19%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (96%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (68%)และผืนดินว่างเปล่า (24%)