ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Qal‘ah-ye Fārsī อัฟกานิสถาน

ใน Qal‘ah-ye Fārsī ฤดูร้อนมีลักษณะ อุ่น แห้งแล้ง ลมแรง และแจ่มใส และฤดูหนาวมีลักษณะ ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หิมะตก และแจ่มใสเป็นส่วนมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -9°C ถึง 31°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -15°C หรือสูงกว่า 34°C

คะแนนการท่องเที่ยวแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Qal‘ah-ye Fārsī เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศอุ่นคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ถึงวันที่ 17 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 25°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 31°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 15°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 7 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 8°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -9°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 2°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Qal‘ah-ye Fārsī มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Qal‘ah-ye Fārsī จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 12 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 5.7 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 2 พฤศจิกายน

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 99% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 2 พฤศจิกายน และมีระยะเวลานาน 6.3 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 12 พฤษภาคม

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 39% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Qal‘ah-ye Fārsī มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 4.7 เดือน ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 17 เมษายน โดยมีโอกาสสูงกว่า 8% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มีนาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 4.7 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 7.3 เดือน ระหว่างวันที่ 17 เมษายน ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ กรกฎาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี

ฝนล้วนเป็นสภาวะที่พบบ่อยที่สุดในช่วง 8.2 เดือน ระหว่างวันที่ 7 มีนาคม ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม และระหว่างวันทึ่ 20 กรกฎาคม ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มีนาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2.5 วัน

หิมะล้วน2.7 เดือน23 พฤศจิกายน13 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีหิมะล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มกราคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2.5 วัน

หิมะผสมฝนเป็นสภาวะที่พบบ่อยที่สุดในช่วง 1.1 เดือน ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม ระหว่างวันทึ่ 12 กรกฎาคม ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม และระหว่างวันทึ่ 19 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน เดือนที่มีหิมะผสมฝนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ กุมภาพันธ์ โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1.7 วัน

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Qal‘ah-ye Fārsī มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 25 เมษายน โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ มีนาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 20 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 9.9 เดือน ระหว่างวันที่ 25 เมษายน ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Qal‘ah-ye Fārsī มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 4.8 เดือน ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 1 เมษายน โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ กุมภาพันธ์ โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 197 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 7.2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 15 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Qal‘ah-ye Fārsī แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 54 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 24 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:05 ในวันที่ 12 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 17 นาที ต่อมาที่เวลา 07:22 ในวันที่ 8 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:08 ในวันที่ 4 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 24 นาที ต่อมาที่เวลา 19:31 ในวันที่ 29 มิถุนายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Qal‘ah-ye Fārsī ระหว่างปี พ.ศ. 2567

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ระดับความชื้นที่รับรู้ ใน Qal‘ah-ye Fārsī เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Qal‘ah-ye Fārsī มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.6 เดือน ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 16.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 22.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.4 เดือน ระหว่างวันที่ 10 กันยายน ถึงวันที่ 23 พฤษภาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือเดือนพฤศจิกายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 10.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Qal‘ah-ye Fārsī มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 6.6 เดือน ระหว่างวันที่ 8 เมษายน ถึงวันที่ 26 ตุลาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 76% ในวันที่ 29 มิถุนายน ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 1.1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 28% ในวันที่ 30 ตุลาคม ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 5.2 เดือน ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 8 เมษายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 48% ในวันที่ 1 มกราคม

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Qal‘ah-ye Fārsī มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Qal‘ah-ye Fārsī เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Qal‘ah-ye Fārsī เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย มิถุนายน ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Qal‘ah-ye Fārsī จะมีเวลานาน 5.5 เดือน (167 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 23 เมษายน ถึงประมาณวันที่ 7 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 3 เมษายน หรือหลังวันที่ 12 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 21 กันยายน หรือหลังวันที่ 23 ตุลาคม

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน Qal‘ah-ye Fārsī ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 18 เมษายน น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 7 เมษายน หรือหลังวันที่ 1 พฤษภาคม

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม ถึงวันที่ 27 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 7.9 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.0 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 4.4 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Qal‘ah-ye Fārsī คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.3 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Qal‘ah-ye Fārsī คือละติจูดที่ 33.785° ลองจิจูดที่ 63.247° และระดับความสูง 2,286 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Qal‘ah-ye Fārsī มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 255 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2,339 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,501 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันมากอย่างยิ่งเช่นกัน (2,777 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Qal‘ah-ye Fārsī ปกคลุมไปด้วย ทุ่งหญ้า (51%) พื้นที่เพาะปลูก (38%) และผืนดินว่างเปล่า (11%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ทุ่งหญ้า (80%)และพื้นที่เพาะปลูก (11%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ทุ่งหญ้า (69%)และผืนดินว่างเปล่า (23%)