ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Kaka เติร์กเมนิสถาน

ใน Kaka ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อนระอุ แห้งแล้ง และแจ่มใส และฤดูหนาวมีลักษณะ หนาวจัด หิมะตก และมีเมฆบางส่วน ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -1°C ถึง 38°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -6°C หรือสูงกว่า 42°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Kaka เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤษภาคม ถึงกลางเดือนกันยายน

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.5 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ถึงวันที่ 11 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 32°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Kaka คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 38°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 25°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 8 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 15°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Kaka คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -0°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 9°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Kaka มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Kaka จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 19 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 5.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 20 ตุลาคม

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Kaka คือ สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 100% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 20 ตุลาคม และมีระยะเวลานาน 7.0 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 19 พฤษภาคม

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Kaka คือ มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 40% ของเวลา

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร โอกาสสำหรับวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากใน Kaka มีความแตกต่างกันตลอดทั้งปี

ฤดูกาลที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมากกว่ามีระยะเวลานาน 6.0 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม โดยมีโอกาสสูงกว่า 7% ที่วันใดวันหนึ่งจะเป็นวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกมากที่สุดใน Kaka คือ มีนาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 4.0 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ฤดูกาลที่แห้งกว่ามีระยะเวลานาน 6.0 เดือน ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน เดือนที่มีวันที่หยาดน้ำฟ้าตกน้อยที่สุดใน Kaka คือ สิงหาคม โดยมีจำนวนวันเฉลี่ยเท่ากับ 0.2 วัน และมีปริมาณฝนอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Kaka คือ มีนาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 3.8 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 14% ในวันที่ 16 มีนาคม

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Kaka มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงฝนชุกของปีมีระยะเวลา 2.8 เดือน ระหว่างวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม โดยมีฝนตกในช่วง 31 วันที่คร่อมวันใดวันหนึ่งไว้ตรงกลาง ในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 13 มิลลิเมตร เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Kaka คือ มีนาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 19 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดฝนในปีนั้นมีระยะเวลานาน 9.2 เดือน ระหว่างวันที่ 3 พฤษภาคม ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Kaka คือ สิงหาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 1 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Kaka มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 1.2 เดือน ระหว่างวันที่ 7 มกราคม ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Kaka คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 31 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 11 เดือน ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มกราคม ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 7 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Kaka แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 35 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 44 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 05:40 ในวันที่ 13 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 36 นาที ต่อมาที่เวลา 08:16 ในวันที่ 7 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 17:43 ในวันที่ 6 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 43 นาที ต่อมาที่เวลา 20:26 ในวันที่ 28 มิถุนายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Kaka ระหว่างปี พ.ศ. 2567

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ระดับความชื้นที่รับรู้ ใน Kaka เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Kaka มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.7 เดือน ระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 12.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Kaka คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 14.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 9 พฤษภาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Kaka คือเดือนพฤศจิกายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 10.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Kaka มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 3.9 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 23 มกราคม ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์และเป็นเวลา 1.3 เดือน ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 30% ในวันที่ 19 ธันวาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันออก เป็นเวลา 1.8 เดือน ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 14 เมษายนและเป็นเวลา 2.1 เดือน ระหว่างวันที่ 9 กันยายน ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 36% ในวันที่ 12 กันยายน ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 4.8 เดือน ระหว่างวันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 9 กันยายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 62% ในวันที่ 28 กรกฎาคม

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Kaka มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Kaka เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงต้น กันยายน ถึงกลางเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนกันยายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Kaka เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงปลาย พฤษภาคม ถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Kaka จะมีเวลานาน 8.4 เดือน (259 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 8 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 21 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 27 มีนาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 29 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 15 ธันวาคม

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน Kaka ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 1 มีนาคม น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 12 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 21 มีนาคม

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม ถึงวันที่ 27 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 7.1 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Kaka คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.2 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.5 เดือน ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 3.7 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Kaka คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.6 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Kaka คือละติจูดที่ 37.348° ลองจิจูดที่ 59.614° และระดับความสูง 290 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Kaka มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 91 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 291 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (474 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (2,993 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Kaka ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (72%)และผืนดินว่างเปล่า (27%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (71%)และพื้นที่เพาะปลูก (21%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (39%)และพุ่มไม้ (31%)