ภูมิอากาศและสภาพอากาศเฉลี่ยตลอดปีใน Shahrak-e Pābedānā อิหร่าน

ใน Shahrak-e Pābedānā ฤดูร้อนมีลักษณะ ร้อน แห้งแล้ง และแจ่มใส และฤดูหนาวมีลักษณะ หนาวจัด หิมะตก และแจ่มใสเป็นส่วนมาก ในระยะเวลาหนึ่งปี โดยทั่วไป อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงในช่วงตั้งแต่ -5°C ถึง 33°C และน้อยมากที่จะอยู่ต่ำกว่า -10°C หรือสูงกว่า 36°C

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำแสดงว่าเวลาที่ดีที่สุดของปีที่น่าไปเที่ยว Shahrak-e Pābedānā เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในช่วงอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงกลางเดือนสิงหาคม

ฤดูกาลที่ร้อนมีระยะเวลา 3.7 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึงวันที่ 11 กันยายน และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันสูงกว่า 28°C เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือ กรกฎาคม โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 33°C และต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ 17°C

ฤดูกาลที่หนาวมีระยะเวลา 3.5 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 4 มีนาคม และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยรายวันต่ำกว่า 14°C เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือ มกราคม โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยเท่ากับ -5°C และสูงสุดเฉลี่ยเท่ากับ 10°C

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆใน Shahrak-e Pābedānā มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่แจ่มใสกว่าของปี ใน Shahrak-e Pābedānā จะเริ่มต้นประมาณวันที่ 17 พฤษภาคม และมีระยะเวลานาน 5.3 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 27 ตุลาคม

เดือนที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือ กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วนในอัตรา 98% ของเวลา

ช่วงที่มีเมฆมากกว่าของปีจะเริ่มต้นประมาณวันที่ 27 ตุลาคม และมีระยะเวลานาน 6.7 เดือน แล้วสิ้นสุดประมาณวันที่ 17 พฤษภาคม

เดือนที่ท้องฟ้ามีเมฆมากที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือ เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่โดยเฉลี่ยแล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากในอัตรา 32% ของเวลา

Shahrak-e Pābedānā ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างมีนัยสำคัญในแง่ความถี่ของวันที่มีฝนตก (กล่าวคือ วันที่มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลวมากกว่า 1 มิลลิเมตร) ช่วงความถี่ตั้งแต่ -0% ถึง 8% โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3%

ในวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก เราแยกความแตกต่างระหว่างวันที่มีฝนล้วน หรือหิมะล้วน หรือหิมะและฝนผสมกัน เดือนที่มีฝนล้วนเป็นจำนวนวันมากที่สุดใน Shahrak-e Pābedānā คือ มีนาคม โดยมีจำนวนวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2.3 วัน การจำแนกประเภทเช่นนี้แสดงว่า รูปแบบของหยาดน้ำฟ้าที่พบบ่อยที่สุดตลอดทั้งปีคือ ฝนล้วน โดยมีความน่าจะเป็นสูงสุดเท่ากับ 8% ในวันที่ 22 มีนาคม

ปริมาณน้ำฝน

เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปีนั้นไว้ตรงกลาง เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน Shahrak-e Pābedānā มีปริมาณฝนรายเดือนแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ปริมาณฝนตลอดปีใน Shahrak-e Pābedānā เดือนที่มีปริมาณฝนมากที่สุดใน Shahrak-e Pābedānā คือ มีนาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 11 มิลลิเมตร

เดือนที่มีปริมาณฝนน้อยที่สุดใน Shahrak-e Pābedānā คือ กรกฎาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันที่คร่อมแต่ละวันของปีไว้ตรงกลาง Shahrak-e Pābedānā มีหิมะรายเดือนในปริมาณแตกต่างกันบ้างตามฤดูกาล

ช่วงหิมะตกในปีนั้นมีระยะเวลานาน 1.2 เดือน ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม ถึงวันที่ 23 มกราคม โดยมีหิมะตกในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในปริมาณอย่างน้อยที่สุด 25 มิลลิเมตร เดือนที่มีหิมะมากที่สุดใน Shahrak-e Pābedānā คือ มกราคม โดยมีปริมาณหิมะเฉลี่ยเท่ากับ 29 มิลลิเมตร

ช่วงปลอดหิมะในปีนั้นมีระยะเวลานาน 11 เดือน ระหว่างวันที่ 23 มกราคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม ปริมาณหิมะน้อยที่สุดในช่วงประมาณวันที่ 28 กรกฎาคม โดยมีปริมาณสะสมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 มิลลิเมตร

ความยาวของวันใน Shahrak-e Pābedānā แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี ในปี พ.ศ. 2567 วันที่สั้นที่สุดคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 8 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 10 นาที

พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือเวลา 04:39 ในวันที่ 10 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 4 นาที ต่อมาที่เวลา 06:43 ในวันที่ 10 มกราคม พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือเวลา 16:41 ในวันที่ 4 ธันวาคม และพระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือในอีก 2 ชั่วโมง และ 11 นาที ต่อมาที่เวลา 18:52 ในวันที่ 30 มิถุนายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง (DST) ใน Shahrak-e Pābedānā ระหว่างปี พ.ศ. 2567

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ระดับความชื้นที่รับรู้ ใน Shahrak-e Pābedānā เมื่อวัดเป็นร้อยละของเวลาที่ระดับความสบายต่อความชื้นคือ ร้อนอบอ้าว ร้อนและไม่มีลม หรือ มีความชื้นสูงมาก ไม่แปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญตลอดระยะเวลาทั้งปี โดยยังคงมีค่าที่เกือบคงที่เท่ากับ 0% ตลอดทั้งปี

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Shahrak-e Pābedānā มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามฤดูกาลตลอดระยะเวลาทั้งปี

ช่วงที่ลมแรงกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.3 เดือน ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยสูงกว่า 12.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เดือนที่มีลมแรงที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือเดือนกรกฎาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 14.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาที่ลมสงบกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 8.7 เดือน ระหว่างวันที่ 2 กันยายน ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เดือนที่มีลมสงบมากที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือเดือนตุลาคม โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงเท่ากับ 9.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงส่วนใหญ่ใน Shahrak-e Pābedānā มีความแตกต่างกันตลอดปี

ลมมักพัดมาจากทิศเหนือ เป็นเวลา 5.9 เดือน ระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 63% ในวันที่ 18 สิงหาคม ลมมักพัดมาจากทิศตะวันตก เป็นเวลา 4.1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 1 ธันวาคมและเป็นเวลา 4.6 เดือน ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 34% ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ลมมักพัดมาจากทิศใต้ เป็นเวลา 2.3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม ถึงวันที่ 17 ธันวาคม โดยมีเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่ากับ 37% ในวันที่ 15 ธันวาคม

เราคำนวณคะแนนการเดินทาง 2 ชนิดเพื่อระบุว่าสภาพอากาศตลอดทั้งปี ใน Shahrak-e Pābedānā มีสภาวะน่าสบายมากแค่ไหน

คะแนนการท่องเที่ยว จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 18°C ถึง 27°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Shahrak-e Pābedānā เพื่อเพลิดเพลินกับกลางแจ้งทั่วไปตามประสานักท่องเที่ยวคือ ตั้งแต่ช่วงกลาง พฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ช่วงกลาง กรกฎาคม ถึงต้นเดือนตุลาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน

คะแนนชายหาด/สระว่ายน้ำ จะสูงตามจำนวนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีฝน โดยมีอุณหภูมิที่รู้สึกได้ระหว่าง 24°C ถึง 32°C คะแนนนี้แสดงว่า เวลาที่ดีที่สุดของปีที่จะไปเที่ยว Shahrak-e Pābedānā เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสภาพอากาศร้อนคือ ตั้งแต่ช่วงต้น มิถุนายน ถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม

ระเบียบวิธี

ในแต่ละชั่วโมงระหว่าง 08:00 ถึง 21:00 ของแต่ละวันในช่วงเวลาการวิเคราะห์ (พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2559) คะแนนต่าง ๆ ที่ไม่ขึ้นต่อกันจะคำนวณจากอุณหภูมิที่รับรู้ เมฆปกคลุม และปริมาณหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด คะแนนเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันเป็นคะแนนรวมรายชั่วโมงคะแนนเดียว จากนั้นจะรวมกลุ่มเป็นวัน โดยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาหลายปีในช่วงการวิเคราะห์และปรับให้เรียบ

คะแนนเมฆปกคลุมของเราคือ 10 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเต็มที่ แล้วลดลงเชิงเส้นไปที่ 9 ในกรณีที่ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ และไปที่ 1 ในกรณีที่ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มที่

คะแนนหยาดน้ำฟ้าของเรา ซึ่งวัดจากปริมาณหยาดน้ำฟ้าในช่วง 3 ชั่วโมงโดยมีจุดกึ่งกลางตรงชั่วโมงที่สนใจ มีค่าเท่ากับ 10 สำหรับกรณีที่ไม่มีหยาดน้ำฟ้า แล้วลดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 สำหรับกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้าน้อยมาก และไปที่ 0 ในกรณีที่มีหยาดน้ำฟ้า 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิสำหรับท่องเที่ยวของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 10°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 18°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 27°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C หรือสูงกว่านั้น

คะแนนอุณหภูมิชายหาด/สระว่ายน้ำของเราคือ 0 เมื่ออุณหภูมิที่รับรู้อยู่ต่ำกว่า 18°C โดยเพิ่มขึ้นแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 24°C หรือไปที่ 10 เมื่อมีอุณหภูมิ 28°C และลดดลงแบบเชิงเส้นไปที่ 9 เมื่อมีอุณหภูมิ 32°C และไปที่ 1 เมื่อมีอุณหภูมิ 38°C หรือสูงกว่านั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Shahrak-e Pābedānā จะมีเวลานาน 7.2 เดือน (219 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 26 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 31 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 9 มีนาคม หรือหลังวันที่ 11 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 11 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 20 พฤศจิกายน

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

เมื่อพิจารณาจากค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเพียงอย่างเดียว ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิใน Shahrak-e Pābedānā ควรปรากฏให้เห็นประมาณวันที่ 13 มีนาคม น้อยครั้งมากที่ปรากฏให้เห็นก่อนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 1 เมษายน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันมีความผันแปรตามฤดูกาลอย่างผิดปกติตลอดช่วงเวลาทั้งปี

ช่วงที่สว่างกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.8 เดือน ระหว่างวันที่ 4 พฤษภาคม ถึงวันที่ 30 สิงหาคม โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณสูงกว่า 7.7 กว.-ชม. เดือนที่สว่างที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือเดือนมิถุนายน โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.7 กว.-ชม.

ช่วงที่มืดกว่าในปีนั้นมีระยะเวลานาน 3.0 เดือน ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ โดยมีพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันต่อตารางเมตรในปริมาณต่ำกว่า 4.6 กว.-ชม. เดือนที่มืดที่สุดของปีใน Shahrak-e Pābedānā คือ ธันวาคม โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.7 กว.-ชม.

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Shahrak-e Pābedānā คือละติจูดที่ 31.134° ลองจิจูดที่ 56.398° และระดับความสูง 2,117 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Shahrak-e Pābedānā มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 515 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2,143 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,546 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันมากอย่างยิ่งเช่นกัน (3,067 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Shahrak-e Pābedānā ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (76%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (73%)และผืนดินว่างเปล่า (14%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (42%)และพุ่มไม้ (41%)