สภาพอากาศในฤดูหนาวใน Majdanpek เซอร์เบีย

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 2°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -7°C หรือสูงกว่า 13°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ -0°C ในวันที่ 14 มกราคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ -4°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -13°C หรือสูงกว่า 3°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ -6°C ในวันที่ 19 มกราคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 2 สิงหาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Majdanpek โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 14°C ถึง 26°C ส่วน 19 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -6°C ถึง -0°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Armstrong, แคนาดา (ห่างออกไป 8,828 กิโลเมตร)และTerra Alta, สหรัฐอเมริกา (7,841 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Majdanpek มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Majdanpek กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูหนาวใน Majdanpek มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 63% เป็น 58%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 28 กุมภาพันธ์ โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 42% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 64% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 81% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Majdanpek วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส ลดลง โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 22% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 17%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 32% ในวันที่ 29 พฤษภาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 16% ในวันที่ 24 มกราคม

ในฤดูหนาวใน Majdanpek โอกาสที่จะเป็นวันที่มี ฝนเท่านั้นลดลง จาก 12% เป็น 9% โอกาสที่จะเป็นวันที่มี หิมะผสมฝน ยังคงอยู่ที่ 4% เป็นสำคัญตลอดทั้งวัน และโอกาสที่จะเป็นวันที่มี หิมะล้วน ยังคงอยู่ที่ 8% เป็นสำคัญตลอดทั้งวัน

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวใน Majdanpek ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 25 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 49 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 5 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 18 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 41 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 12 มิลลิเมตร ในวันที่ 15 มกราคม

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณหิมะเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในฤดูหนาวใน Majdanpek ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 128 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 316 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 109 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 293 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 167 มิลลิเมตร ในวันที่ 31 ธันวาคม

ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวใน Majdanpek ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 2 ชั่วโมง และ 3 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 นาที และ 23 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 9 นาที และ 38 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 8 ชั่วโมง และ 50 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 8 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวใน Majdanpek คือ 07:08 ในวันที่ 2 มกราคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 57 นาที ในเวลา 06:11 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 15:52 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง และ 26 นาที ในเวลา 17:18 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

มีการใช้เวลาออมแสงใน Majdanpek ระหว่างปี พ.ศ. 2567 แต่ไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงในฤดูหนาว ดังนั้นจึงมีการใช้เวลาออมแสงตลอดทั้งฤดูกาล

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 04:47 และตกในเวลาอีก 15 ชั่วโมง และ 33 นาที ต่อมาที่เวลา 20:20 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:05 และตกในเวลาอีก 8 ชั่วโมง และ 50 นาที ต่อมาที่ 15:55

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน Majdanpek โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดทั้งฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 5% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Majdanpek จะเพิ่มขึ้นช้า ๆ ในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้นจาก 10.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 11.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 11.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 7.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดรายวันในฤดูหนาว คือ 11.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์

ทิศทางลมใน Majdanpek ในช่วงฤดูหนาวส่วนใหญ่มาจาก ทิศตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึงวันที่ 5 ธันวาคมและตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์และทิศตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Majdanpek จะมีเวลานาน 6.0 เดือน (182 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 15 เมษายน ถึงประมาณวันที่ 15 ตุลาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 28 มีนาคม หรือหลังวันที่ 5 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 26 กันยายน หรือหลังวันที่ 2 พฤศจิกายน

ฤดูหนาวใน Majdanpek อยู่ภายนอกช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมาโดยตลอด

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน Majdanpek จะลดลงอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 1,224°C จาก 1,226°C เป็น 2°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน Majdanpek จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.5 กว.-ชม. จาก 1.5 กว.-ชม. เป็น 3.0 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 1.3 กว.-ชม. ในวันที่ 14 ธันวาคม

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Majdanpek คือละติจูดที่ 44.428° ลองจิจูดที่ 21.946° และระดับความสูง 504 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Majdanpek มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน มาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 629 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 536 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันมากเช่นกัน (831 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันมาก (1,522 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Majdanpek ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (83%)และพื้นผิวเทียม (16%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (83%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (48%)และพื้นที่เพาะปลูก (41%)