สภาพอากาศในฤดูใบไม้ร่วงใน แอลเจียร์ แอลจีเรีย

อุณหภูมิสูงรายวัน ลดลง ไป 11°C จาก 29°C เป็น 17°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 14°C หรือสูงกว่า 32°C

อุณหภูมิต่ำรายวัน ลดลง ไป 11°C จาก 19°C เป็น 8°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 5°C หรือสูงกว่า 22°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 11 สิงหาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน แอลเจียร์ โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 20°C ถึง 30°C ส่วน 19 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 6°C ถึง 15°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูใบไม้ร่วง แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

La Crescenta-Montrose, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา (ห่างออกไป 10,065 กิโลเมตร) Rocha, อุรุกวัย (9,908 กิโลเมตร) และPinjarra, ออสเตรเลีย (14,000 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ แอลเจียร์ มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ แอลเจียร์ กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูใบไม้ร่วงใน แอลเจียร์ มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 40% โอกาสสูงสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 30 ตุลาคม คือ 44%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง คือ 1 กันยายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 75% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 44% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 92% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน แอลเจียร์ วันที่ฝนจะตกในฤดูใบไม้ร่วง มีโอกาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 9% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 28%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 29% ในวันที่ 19 พฤศจิกายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 2% ในวันที่ 17 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงใน แอลเจียร์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 13 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 30 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 1 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 69 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 122 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 22 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 69 มิลลิเมตร ในวันที่ 30 พฤศจิกายน

ตลอดระยะเวลาของฤดูใบไม้ร่วงใน แอลเจียร์ ความยาวของเวลากลางวันจะลดลงอย่างรวดเร็วมาก ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะลดลงไป 3 ชั่วโมง และ 6 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการลดลงรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 นาที และ 4 วินาที และมีการลดลงรายสัปดาห์เท่ากับ 14 นาที และ 27 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูใบไม้ร่วงคือวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 9 ชั่วโมง และ 51 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 กันยายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 56 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของฤดูใบไม้ร่วงใน แอลเจียร์ คือเวลา 06:19 ในวันที่ 1 กันยายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือหลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง และ 22 นาที ในเวลา 07:41 ของวันที่ 30 พฤศจิกายน

เวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ 19:15 เมื่อวันที่ 1 กันยายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง และ 44 นาที ในเวลา 17:31 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน แอลเจียร์ ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:29 และตกในเวลาอีก 14 ชั่วโมง และ 41 นาที ต่อมาที่เวลา 20:09 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:56 และตกในเวลาอีก 9 ชั่วโมง และ 39 นาที ต่อมาที่ 17:35

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูใบไม้ร่วง ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน แอลเจียร์ โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นลดลงอย่างรวดเร็วมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยจะลดลงจาก 62% เป็น 0% ภายในฤดูนั้น

โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงคือ 0% ในวันที่ 28 พฤศจิกายน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 73% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน แอลเจียร์ จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยเพิ่มขึ้นจาก 13.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 16.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 17.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 12.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมใน แอลเจียร์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงส่วนใหญ่มาจาก ทิศตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคมและทิศตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน

แอลเจียร์ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยใน แอลเจียร์ ลดลงอย่างรวดเร็วมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยลดลง 7°C จาก 25°C เป็น 18°C ภายในช่วงฤดูนั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

แม้ว่าไม่เป็นเช่นนั้นทุกปี แต่ฤดูหนาวบางปี ใน แอลเจียร์ จะมีอุณหภูมิเยือกแข็งบ้าง วันที่ที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะอยู่ในฤดูเพาะปลูกคือ 15 มกราคม โดยมีโอกาส 78%

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน แอลเจียร์ จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูใบไม้ร่วง โดยเพิ่มขึ้น 796°C จาก 1,822°C เป็น 2,618°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน แอลเจียร์ จะลดลงอย่างรวดเร็วมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยลดลง 3.6 กว.-ชม. จาก 6.1 กว.-ชม. เป็น 2.5 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ แอลเจียร์ คือละติจูดที่ 36.752° ลองจิจูดที่ 3.042° และระดับความสูง 186 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ แอลเจียร์ มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 286 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 153 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเช่นกัน (405 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,628 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ แอลเจียร์ ปกคลุมไปด้วย พื้นผิวเทียม (94%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (40%)และพื้นผิวเทียม (35%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (52%)และพื้นที่เพาะปลูก (27%)