สภาพอากาศในฤดูหนาวใน Pará de Minas บราซิล

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 2°C จาก 25°C เป็น 27°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 22°C หรือสูงกว่า 31°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 25°C ในวันที่ 14 มิถุนายน

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 14°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 10°C หรือสูงกว่า 18°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 13°C ในวันที่ 11 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Pará de Minas โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 20°C ถึง 29°C ส่วน 7 กรกฎาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 13°C ถึง 25°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Francisco Sarabia, เม็กซิโก (ห่างออกไป 6,692 กิโลเมตร) เตกูซิกัลปา, ฮอนดูรัส (6,003 กิโลเมตร) และTshaneni, สวาซิแลนด์ (7,747 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Pará de Minas มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Pará de Minas กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูหนาวใน Pará de Minas มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 30% เป็น 23% โอกาสต่ำสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 17 สิงหาคม คือ 22%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 17 สิงหาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 78% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 80% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 78% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Pará de Minas วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 6% ตลอดฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 70% ในวันที่ 20 ธันวาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 3% ในวันที่ 14 กรกฎาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวใน Pará de Minas อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 13 มิลลิเมตร ตลอดฤดู และน้อยมากที่เกิน 51 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 6 มิลลิเมตร ในวันที่ 14 กรกฎาคม

ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวใน Pará de Minas ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 43 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 28 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 3 นาที และ 17 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 56 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 43 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวใน Pará de Minas คือ 06:34 ในวันที่ 5 กรกฎาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 27 นาที ในเวลา 06:07 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:26 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 24 นาที ในเวลา 17:50 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Pará de Minas ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:16 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 20 นาที ต่อมาที่เวลา 18:36 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:32 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 56 นาที ต่อมาที่ 17:28

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน Pará de Minas โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ภายใน 1% ของ 2% ตลอดทั้งฤดู

โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูหนาวคือ 0% ในวันที่ 13 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 59% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Pará de Minas จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้นจาก 11.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 14.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 14.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 10.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Pará de Minas ตลอดฤดูหนาวส่วนใหญ่คือ จากทิศตะวันออก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 71% ในวันที่ 8 สิงหาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Pará de Minas มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน Pará de Minas จะลดลงอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 3,429°C จาก 4,000°C เป็น 571°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน Pará de Minas จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.4 กว.-ชม. จาก 4.7 กว.-ชม. เป็น 6.0 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 4.6 กว.-ชม. ในวันที่ 16 มิถุนายน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Pará de Minas คือละติจูดที่ -19.860° ลองจิจูดที่ -44.608° และระดับความสูง 792 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Pará de Minas มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 264 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 839 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมากเช่นกัน (461 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (991 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Pará de Minas ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (63%) ต้นไม้ (22%) และทุ่งหญ้า (11%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (37%)และพื้นที่เพาะปลูก (21%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (29%)และพื้นที่เพาะปลูก (25%)