1. WeatherSpark.com
  2. บราซิล
  3. งูหางกระดิ่ง

สภาพอากาศในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง บราซิล

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 4°C จาก 21°C เป็น 24°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 14°C หรือสูงกว่า 31°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 20°C ในวันที่ 13 มิถุนายน

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 10°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 2°C หรือสูงกว่า 15°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 8°C ในวันที่ 21 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 มกราคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน งูหางกระดิ่ง โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 17°C ถึง 28°C ส่วน 21 กรกฎาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 8°C ถึง 21°C

อุณหภูมิสูงและต่ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

อุณหภูมิสูงและต่ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0°C0°C5°C5°C10°C10°C15°C15°C20°C20°C25°C25°C30°C30°Cฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ13 มิ.ย.20°C13 มิ.ย.20°C9°C9°C1 มิ.ย.21°C1 มิ.ย.21°C10°C10°C31 ส.ค.24°C31 ส.ค.24°C11°C11°C1 ก.ค.20°C1 ก.ค.20°C9°C9°C1 ส.ค.22°C1 ส.ค.22°C9°C9°C
อุณหภูมิรายวันเฉลี่ยสูงสุด (เส้นสีแดง) และอุณหภูมิรายวันเฉลี่ยต่ำสุด (เส้นสีน้ำเงิน) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางเป็นอุณหภูมิที่รับรู้เฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0000020204040606080810101212141416161818202022220000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิหนาวหนาวเย็นเย็นกำลังสบายอุ่นอุ่น
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ซึ่งเข้ารหัสสีเป็นแถบ โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

ปีเตอร์มาริตซ์เบิร์ก, แอฟริกาใต้ (ห่างออกไป 8,122 กิโลเมตร) Ibb, เยเมน (11,425 กิโลเมตร) และอันตานานาริโว, มาดากัสการ์ (10,189 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ งูหางกระดิ่ง มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

แผนที่
หมุดแผนที่
© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ งูหางกระดิ่ง กับอีกเมืองหนึ่ง :

แผนที่

ฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 37% เป็น 32% โอกาสต่ำสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 26 สิงหาคม คือ 32%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 26 สิงหาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 68% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 55% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 68% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

ประเภทเมฆปกคลุมในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ประเภทเมฆปกคลุมในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ9 ก.พ.45%9 ก.พ.45%1 มิ.ย.63%1 มิ.ย.63%31 ส.ค.68%31 ส.ค.68%1 ก.ค.60%1 ก.ค.60%1 ส.ค.63%1 ส.ค.63%แจ่มใสแจ่มใสเป็นส่วนมากมีเมฆบางส่วนมีเมฆเป็นส่วนมากมืดครึ้ม
0% แจ่มใส 20% แจ่มใสเป็นส่วนมาก 40% มีเมฆบางส่วน 60% มีเมฆเป็นส่วนมาก 80% มืดครึ้ม 100%
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแต่ละแถบเมฆปกคลุม โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ของท้องฟ้าที่มีเมฆปกคลุม

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน งูหางกระดิ่ง วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส ลดลง โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 33% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 27%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 56% ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 23% ในวันที่ 17 สิงหาคม

ความน่าจะเป็นที่หยาดน้ำฟ้าจะตกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ความน่าจะเป็นที่หยาดน้ำฟ้าจะตกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0%0%5%5%10%10%15%15%20%20%25%25%30%30%35%35%40%40%45%45%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ17 ส.ค.23%17 ส.ค.23%1 มิ.ย.33%1 มิ.ย.33%31 ส.ค.27%31 ส.ค.27%1 ก.ค.34%1 ก.ค.34%1 ส.ค.24%1 ส.ค.24%ฝน
เปอร์เซ็นต์ของวันที่ซึ่งพบว่ามีหยาดน้ำฟ้าหลายชนิด โดยไม่รวมปริมาณที่น้อยมาก : ฝนล้วน หิมะล้วน และผสม (ทั้งฝนและหิมะตกในวันเดียวกัน)

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 147 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 284 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 38 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 101 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 208 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 15 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 81 มิลลิเมตร ในวันที่ 9 สิงหาคม

ปริมาณน้ำฝนรายเดือนโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ปริมาณน้ำฝนรายเดือนโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0 มม.0 มม.50 มม.50 มม.100 มม.100 มม.150 มม.150 มม.200 มม.200 มม.250 มม.250 มม.300 มม.300 มม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ7 ส.ค.81 มม.7 ส.ค.81 มม.1 มิ.ย.147 มม.1 มิ.ย.147 มม.31 ส.ค.101 มม.31 ส.ค.101 มม.1 ก.ค.116 มม.1 ก.ค.116 มม.
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณหิมะเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง

ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 55 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 37 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 4 นาที และ 16 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 35 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 36 นาที

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0 ชม.24 ชม.4 ชม.20 ชม.8 ชม.16 ชม.12 ชม.12 ชม.16 ชม.8 ชม.20 ชม.4 ชม.24 ชม.0 ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ20 มิ.ย.10 ชม. 35 นาที20 มิ.ย.10 ชม. 35 นาทีกลางวันกลางวันกลางวันกลางวันกลางคืน1 มิ.ย.10 ชม. 41 นาที1 มิ.ย.10 ชม. 41 นาที31 ส.ค.11 ชม. 36 นาที31 ส.ค.11 ชม. 36 นาที1 ส.ค.10 ชม. 59 นาที1 ส.ค.10 ชม. 59 นาที
จำนวนชั่วโมงที่มองเห็นดวงอาทิตย์ (เส้นสีดำ) จากด้านล่าง (สีเหลืองมากที่สุด) ไปด้านบน (สีเทามากที่สุด) แถบสีแสดง : เวลากลางวันเต็มที่, สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และเวลากลางคืนเต็มที่

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง คือ 07:19 ในวันที่ 2 กรกฎาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 33 นาที ในเวลา 06:46 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:51 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 30 นาที ในเวลา 18:22 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน งูหางกระดิ่ง ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:41 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 42 นาที ต่อมาที่เวลา 19:22 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:17 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 35 นาที ต่อมาที่ 17:53

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.020406081012141618202200ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ06:4606:4631 ส.ค.18:2231 ส.ค.18:2207:1307:137 มิ.ย.17:517 มิ.ย.17:5107:1907:192 ก.ค.17:562 ก.ค.17:5607:1007:101 ส.ค.18:091 ส.ค.18:09เที่ยงคืนสุริยะเที่ยงคืนสุริยะเที่ยงสุริยะพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก
วันสุริยะคติในฤดูหนาว จากด้านล่างไปด้านบน เส้นสีดำคือ เที่ยงคืนสุริยะก่อนหน้านี้ อาทิตย์ขึ้น เที่ยงสุริยะ อาทิตย์ตก และเที่ยงคืนสุริยะครั้งถัดไป กลางวัน สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และกลางคืนแสดงให้เห็นด้วยแถบสีจากสีเหลืองไปยังสีเทา

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0000020204040606080810101212141416161818202022220000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ0010202030304050001010203030404060
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวของปี พ.ศ. 2567 เส้นสีดำเป็นเส้นแสดงระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า ในหน่วยองศา) สีที่เติมบนพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศ (ทิศทางที่มุ่งหน้าตามเข็มทิศ) ของดวงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตของจุดหลักสี่จุดบนเข็มทิศระบุทิศทางระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0000040408081212161620200000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ8 พ.ค.00:238 พ.ค.00:2323 พ.ค.10:5423 พ.ค.10:546 มิ.ย.09:386 มิ.ย.09:3821 มิ.ย.22:0921 มิ.ย.22:095 ก.ค.19:585 ก.ค.19:5821 ก.ค.07:1821 ก.ค.07:184 ส.ค.08:144 ส.ค.08:1419 ส.ค.15:2619 ส.ค.15:262 ก.ย.22:562 ก.ย.22:5617 ก.ย.23:3517 ก.ย.23:3506:1706:1717:3617:3617:0817:0807:0707:0707:1907:1917:5317:5317:2617:2607:5707:5707:0907:0917:3817:3817:1617:1607:3507:3507:2407:2418:2618:2618:2018:2007:3707:3706:3406:3418:0818:0818:1018:1006:4506:45
เวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า (พื้นที่สีน้ำเงินอ่อน) โดยระบุเวลาที่จันทร์ดับ (เส้นสีเทาเข้ม) และจันทร์เต็มดวง (เส้นสีน้ำเงิน) โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน งูหางกระดิ่ง โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ภายใน 2% ของ 3% ตลอดทั้งฤดู

โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูหนาวคือ 1% ในวันที่ 22 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 15 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 63% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 1% ของเวลาทั้งหมด

ระดับความสบายต่อความชื้นในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ระดับความสบายต่อความชื้นในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0%0%10%10%20%20%30%30%40%40%50%50%60%60%70%70%80%80%90%90%100%100%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ22 ก.ค.1%22 ก.ค.1%1 มิ.ย.4%1 มิ.ย.4%31 ส.ค.3%31 ส.ค.3%1 ก.ค.2%1 ก.ค.2%1 ส.ค.1%1 ส.ค.1%อบอ้าวอบอ้าวกำลังสบายกำลังสบายแห้งแห้งร้อนอบอ้าวร้อนอบอ้าว
แห้ง 13°C กำลังสบาย 16°C อบอ้าว 18°C ร้อนอบอ้าว 21°C ร้อนและไม่มีลม 24°C มีความชื้นสูงมาก
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในระดับความสบายต่อความชื้นต่าง ๆ โดยแบ่งตามจุดน้ำค้าง

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน งูหางกระดิ่ง จะอยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ ในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ภายใน 0.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 6.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 8 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 7.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 2 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 5.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ความเร็วลมเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0 กม./ชม.0 กม./ชม.2 กม./ชม.2 กม./ชม.4 กม./ชม.4 กม./ชม.6 กม./ชม.6 กม./ชม.8 กม./ชม.8 กม./ชม.10 กม./ชม.10 กม./ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ1 มิ.ย.6.2 กม./ชม.1 มิ.ย.6.2 กม./ชม.31 ส.ค.6.9 กม./ชม.31 ส.ค.6.9 กม./ชม.1 ก.ค.6.5 กม./ชม.1 ก.ค.6.5 กม./ชม.1 ส.ค.6.7 กม./ชม.1 ส.ค.6.7 กม./ชม.
ค่าเฉลี่ยของความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง (เส้นสีเทาเข้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน งูหางกระดิ่ง ตลอดฤดูหนาวส่วนใหญ่คือ จากทิศตะวันออก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 43% ในวันที่ 8 สิงหาคม

ทิศทางลมในช่วงฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

ทิศทางลมในช่วงฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0%100%20%80%40%60%60%40%80%20%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิใต้ตะวันออกเหนือตะวันตก
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ซึ่งทิศทางลมเฉลี่ยมาจากทิศหลักของลมทั้ง 4 ทิศ โดยไม่รวมถึงจำนวนชั่วโมงที่มีความเร็วลมเฉลี่ยน้อยกว่า 1.6 กม./ชม. พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตคือเปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ใช้ไปกับทิศระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน งูหางกระดิ่ง จะมีเวลานาน 11 เดือน (332 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 29 กรกฎาคม ถึงประมาณวันที่ 26 มิถุนายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นหลังวันที่ 15 กันยายน หรือสิ้นสุดก่อนวันที่ 21 พฤษภาคม

โอกาสต่ำสุดที่วันใดวันหนึ่งจะอยู่ภายในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกใน งูหางกระดิ่ง ระหว่างฤดูหนาวคือ 33% ในวันที่ 15 กรกฎาคม

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งฤดูกาลเพาะปลูกมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ82%1 มิ.ย.82%1 มิ.ย.78%31 ส.ค.78%31 ส.ค.1 ก.ค.44%1 ก.ค.44%53%1 ส.ค.53%1 ส.ค.90%15 ก.ย.90%15 ก.ย.90%21 พ.ค.90%21 พ.ค.33%15 ก.ค.33%15 ก.ค.หนาวจัดหนาวเย็นกำลังสบายอุ่น
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ เส้นสีดำคือโอกาสเป็นเปอร์เซ็นต์ที่วันหนึ่ง ๆ จะอยู่ในช่วงฤดูเพาะปลูก

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน งูหางกระดิ่ง จะลดลงอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 2,697°C จาก 3,042°C เป็น 345°C ภายในช่วงฤดูนั้น

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.500°C500°C1,000°C1,000°C1,500°C1,500°C2,000°C2,000°C2,500°C2,500°C3,000°C3,000°Cฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ1 มิ.ย.3,042°C1 มิ.ย.3,042°C31 ส.ค.345°C31 ส.ค.345°C1 ก.ค.0°C1 ก.ค.0°C1 ส.ค.153°C1 ส.ค.153°C
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยที่สะสมตลอดช่วงฤดูหนาว พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน งูหางกระดิ่ง จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.3 กว.-ชม. จาก 3.8 กว.-ชม. เป็น 5.1 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 3.5 กว.-ชม. ในวันที่ 24 มิถุนายน

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่ง

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน งูหางกระดิ่งมิ.ย.ก.ค.ส.ค.0 กว.-ชม.0 กว.-ชม.1 กว.-ชม.1 กว.-ชม.2 กว.-ชม.2 กว.-ชม.3 กว.-ชม.3 กว.-ชม.4 กว.-ชม.4 กว.-ชม.5 กว.-ชม.5 กว.-ชม.6 กว.-ชม.6 กว.-ชม.7 กว.-ชม.7 กว.-ชม.8 กว.-ชม.8 กว.-ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ24 มิ.ย.3.5 กว.-ชม.24 มิ.ย.3.5 กว.-ชม.1 มิ.ย.3.8 กว.-ชม.1 มิ.ย.3.8 กว.-ชม.31 ส.ค.5.1 กว.-ชม.31 ส.ค.5.1 กว.-ชม.1 ส.ค.4.2 กว.-ชม.1 ส.ค.4.2 กว.-ชม.
ค่าพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นรายวันโดยเฉลี่ยที่ตกกระทบพื้นดินต่อตารางเมตร (เส้นสีส้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ งูหางกระดิ่ง คือละติจูดที่ -24.956° ลองจิจูดที่ -53.455° และระดับความสูง 786 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ งูหางกระดิ่ง มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 131 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 738 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (277 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (785 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ งูหางกระดิ่ง ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (61%) พื้นที่เพาะปลูก (18%) และต้นไม้ (13%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (51%)และต้นไม้ (26%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (42%)และต้นไม้ (35%)

รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน งูหางกระดิ่ง โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559

อุณหภูมิและจุดน้ำค้าง

เครือข่ายของเรามีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศเพียงแห่งเดียวคือ Foz do Iguaçu / Cataratas International Airport ที่เหมาะในการใช้เป็นตัวแทนสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้างในอดีตของ งูหางกระดิ่ง

ด้วยระยะห่าง 126 กิโลเมตร จาก งูหางกระดิ่ง ซึ่งใกล้กว่าเกณฑ์ที่เรากำหนดไว้ที่ 150 กิโลเมตร จึงถือว่าสถานีแห่งนี้อยู่ใกล้เพียงพอที่จะใช้เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราสำหรับบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและจุดน้ำค้าง

บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีกับ งูหางกระดิ่ง ตามบรรยากาศมาตรฐานสากล และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน MERRA-2 satellite-era reanalysis ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง

โปรดทราบว่า สถานีเองอาจลงข้อมูลเพิ่มเติมในบันทึกโดยใช้ข้อมูลจากสถานีอื่นที่อยู่ใกล้เคียงหรือจาก MERRA-2 reanalysis

ข้อมูลอื่น ๆ

ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus

ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร

ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่

ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่

ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames

AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ

แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม

ข้อสงวนสิทธิ์

ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้

เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก

เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ

กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา