สภาพอากาศในฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน หมู่เกาะโซโลมอนอุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 30°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 29°C หรือสูงกว่า 32°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 30°C ในวันที่ 28 กรกฎาคม อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 23°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 21°C หรือสูงกว่า 24°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 22°C ในวันที่ 18 สิงหาคม สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 30 พฤศจิกายน วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน หมู่เกาะโซโลมอน โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 24°C ถึง 31°C ส่วน 17 สิงหาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 22°C ถึง 30°C ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว เมฆฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 81% เป็น 73% โอกาสต่ำสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 21 สิงหาคม คือ 71% วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 21 สิงหาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 29% ของเวลา สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 90% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 29% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน หมู่เกาะโซโลมอน วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 23% ตลอดฤดู สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 47% ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 21% ในวันที่ 22 กรกฎาคม ปริมาณน้ำฝนเพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน ลดลง โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 84 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 168 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 13 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 67 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 138 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 14 มิลลิเมตร ดวงอาทิตย์ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นช้า ๆ ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 16 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 10 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 1 นาที และ 13 วินาที วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 40 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 57 นาที เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน คือ 06:39 ในวันที่ 15 กรกฎาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 13 นาที ในเวลา 06:25 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:12 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 12 นาที ในเวลา 18:23 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน หมู่เกาะโซโลมอน ระหว่างปี พ.ศ. 2567 สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:04 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 36 นาที ต่อมาที่เวลา 18:39 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:35 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 40 นาที ต่อมาที่ 18:15 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน ใน หมู่เกาะโซโลมอน โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ที่ประมาณ 100% ตลอดทั้งฤดู โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูหนาวคือ 99% ในวันที่ 17 สิงหาคม สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 99% ของเวลาทั้งหมด ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน หมู่เกาะโซโลมอน จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้นจาก 16.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 21.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 23 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 22.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 11.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดรายวันในฤดูหนาว คือ 22.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 24 สิงหาคม ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน หมู่เกาะโซโลมอน ตลอดฤดูหนาวส่วนใหญ่คือ จากทิศตะวันออก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 80% ในวันที่ 11 มิถุนายน อุณหภูมิน้ำหมู่เกาะโซโลมอน ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยใน หมู่เกาะโซโลมอน อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ที่ประมาณ 29°C ตลอดฤดู อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวคือ 28°C ในวันที่ 26 สิงหาคม ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) อุณหภูมิ ใน หมู่เกาะโซโลมอน มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูหนาวใน หมู่เกาะโซโลมอน
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน หมู่เกาะโซโลมอน จะลดลงอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 4,538°C จาก 5,504°C เป็น 966°C ภายในช่วงฤดูนั้น พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน หมู่เกาะโซโลมอน จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.1 กว.-ชม. จาก 4.0 กว.-ชม. เป็น 5.1 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 3.9 กว.-ชม. ในวันที่ 17 มิถุนายน ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ หมู่เกาะโซโลมอน คือละติจูดที่ -8.000° ลองจิจูดที่ 159.000° และระดับความสูง 0 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ หมู่เกาะโซโลมอน มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 0 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ หมู่เกาะโซโลมอน ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (76%)และทุ่งหญ้า (13%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (51%)และน้ำ (33%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (84%)และต้นไม้ (12%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน หมู่เกาะโซโลมอน โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 รายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่ใช้สำหรับรายงานฉบับนี้มีให้ดูได้ที่หน้า Honiara-Henderson International Airport ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา สถานที่แห่งอื่น |