สภาพอากาศในฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base รัฐอะแลสกา, สหรัฐอเมริกา

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 7°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 1°C หรือสูงกว่า 11°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 6°C ในวันที่ 14 มกราคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 3°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -4°C หรือสูงกว่า 7°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 2°C ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 3 สิงหาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ที่ Port Alexander Seaplane Base โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 11°C ถึง 15°C ส่วน 23 กุมภาพันธ์ วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 2°C ถึง 6°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Portree, สหราชอาณาจักร (ห่างออกไป 6,572 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Port Alexander Seaplane Base มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Port Alexander Seaplane Base กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 75% เป็น 70% โอกาสสูงสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 25 มกราคม คือ 77%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 23 กุมภาพันธ์ โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 30% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 24 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 77% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 41% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ที่ Port Alexander Seaplane Base วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 69% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 57%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 73% ในวันที่ 30 ตุลาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 35% ในวันที่ 20 มิถุนายน

ในฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base โอกาสที่จะเป็นวันที่มี ฝนเท่านั้นลดลง จาก 67% เป็น 54% โอกาสที่จะเป็นวันที่มี หิมะผสมฝน ยังคงอยู่ที่ 3% เป็นสำคัญตลอดทั้งวัน และโอกาสที่จะเป็นวันที่มี หิมะล้วน ยังคงอยู่ที่ 1% เป็นสำคัญตลอดทั้งวัน

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 298 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 466 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 166 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 196 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 304 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 89 มิลลิเมตร

ปริมาณหิมะ

เช่นเดียวกับปริมาณฝน เราพิจารณาปริมาณหิมะที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณหิมะเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวันในฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 34 มิลลิเมตร ตลอดช่วงเวลานั้น และน้อยมากที่จะเกิน 182 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 47 มิลลิเมตร ในวันที่ 27 มกราคม

ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 3 ชั่วโมง และ 21 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 นาที และ 15 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 15 นาที และ 48 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 20 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 6 ชั่วโมง และ 53 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 40 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base คือ 08:31 ในวันที่ 28 ธันวาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง และ 40 นาที ในเวลา 06:51 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 15:21 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 2 ชั่วโมง และ 10 นาที ในเวลา 17:31 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

มีการใช้เวลาออมแสงที่ Port Alexander Seaplane Base ระหว่างปี พ.ศ. 2567 แต่ไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงในฤดูหนาว ดังนั้นจึงมีการใช้เวลามาตรฐานตลอดทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 04:09 และตกในเวลาอีก 17 ชั่วโมง และ 41 นาที ต่อมาที่เวลา 21:50 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 08:30 และตกในเวลาอีก 6 ชั่วโมง และ 53 นาที ต่อมาที่ 15:23

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ที่ Port Alexander Seaplane Base โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดทั้งฤดู

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ Port Alexander Seaplane Base จะลดลง ในช่วงฤดูหนาว โดยลดลงจาก 28.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 25.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 28.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 15.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดรายวันในฤดูหนาว คือ 28.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 5 ธันวาคม

ทิศทางลมที่ Port Alexander Seaplane Base ในช่วงฤดูหนาวส่วนใหญ่มาจาก ทิศใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึงวันที่ 16 ธันวาคมและทิศตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์

Port Alexander Seaplane Base ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยที่ Port Alexander Seaplane Base ลดลงช้า ๆในช่วงฤดูหนาว โดยลดลง 2°C จาก 8°C เป็น 6°C ภายในช่วงฤดูนั้น

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ที่ Port Alexander Seaplane Base จะมีเวลานาน 7.3 เดือน (224 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 22 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 2 พฤษภาคม และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 4 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 10 ธันวาคม

ฤดูหนาวที่ Port Alexander Seaplane Base มีโอกาสมากกว่าครึ่งที่จะอยู่ภายนอกช่วงฤดูกาลเพาะปลูก โดยที่วันใดวันหนึ่งมีโอกาสจะอยู่ในฤดูกาลเพาะปลูกเท่ากับช่วงต่ำของ 3% ในวันที่ 9 มกราคม

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยที่ Port Alexander Seaplane Base จะลดลงอย่างรวดเร็วระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 278°C จาก 280°C เป็น 2°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันที่ Port Alexander Seaplane Base จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.1 กว.-ชม. จาก 0.4 กว.-ชม. เป็น 1.5 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 0.3 กว.-ชม. ในวันที่ 19 ธันวาคม

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Port Alexander Seaplane Base คือละติจูดที่ 56.247° ลองจิจูดที่ -134.648° และระดับความสูง 4 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Port Alexander Seaplane Base มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 518 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 64 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (919 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันมาก (1,349 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Port Alexander Seaplane Base ปกคลุมไปด้วย น้ำ (56%)และต้นไม้ (44%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (77%)และต้นไม้ (19%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (75%)และต้นไม้ (19%)