สภาพอากาศในฤดูใบไม้ผลิใน สุราบายา อินโดนีเซีย

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 33°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 30°C หรือสูงกว่า 35°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 34°C ในวันที่ 27 ตุลาคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 25°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 22°C หรือสูงกว่า 27°C อุณหภูมิต่ำเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 26°C ในวันที่ 8 พฤศจิกายน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ตุลาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน สุราบายา โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 26°C ถึง 34°C ส่วน 8 สิงหาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 24°C ถึง 32°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูใบไม้ผลิ แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Puerto Cabello, เวเนซุเอลา (ห่างออกไป 19,668 กิโลเมตร)และSão Luís, บราซิล (17,265 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ สุราบายา มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ สุราบายา กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูใบไม้ผลิใน สุราบายา มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากเพิ่มขึ้นจาก 58% เป็น 89%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ คือ 2 กันยายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 42% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 22 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 91% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 48% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน สุราบายา วันที่ฝนจะตกในฤดูใบไม้ผลิ มีโอกาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 4% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 51%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 70% ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 3% ในวันที่ 19 สิงหาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูใบไม้ผลิใน สุราบายา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 9 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 38 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 175 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 286 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 93 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของฤดูใบไม้ผลิใน สุราบายา ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 32 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 22 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 2 นาที และ 31 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูใบไม้ผลิคือวันที่ 1 กันยายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 58 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 31 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูใบไม้ผลิใน สุราบายา คือ 05:29 ในวันที่ 1 กันยายน และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 30 นาที ในเวลา 05:00 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:22 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 11 นาที ในเวลา 17:33 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน สุราบายา ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:10 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 33 นาที ต่อมาที่เวลา 17:43 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:39 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 42 นาที ต่อมาที่ 17:21

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูใบไม้ผลิ ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน สุราบายา โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 93% เป็น 100% ภายในฤดูนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 92% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน สุราบายา จะลดลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยลดลงจาก 13.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 8.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 14.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 8.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในฤดูใบไม้ผลิ คือ 8.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 24 พฤศจิกายน

ทิศทางลมใน สุราบายา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิส่วนใหญ่มาจาก ทิศตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายนและทิศตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน

สุราบายา ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยใน สุราบายา เพิ่มขึ้นช้า ๆในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเพิ่มขึ้น 2°C จาก 28°C เป็น 30°C ภายในช่วงฤดูนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยสูงสุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ 30°C ในวันที่ 19 พฤศจิกายน

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน สุราบายา มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน สุราบายา จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูใบไม้ผลิ โดยเพิ่มขึ้น 1,626°C จาก 1,076°C เป็น 2,702°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน สุราบายา จะลดลงอย่างรวดเร็วมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยลดลง 2.2 กว.-ชม. จาก 6.7 กว.-ชม. เป็น 4.6 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยสูงสุดรายวันในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ 6.9 กว.-ชม. ในวันที่ 21 กันยายน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ สุราบายา คือละติจูดที่ -7.249° ลองจิจูดที่ 112.751° และระดับความสูง 8 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ สุราบายา มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 33 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 6 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (131 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (3,338 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ สุราบายา ปกคลุมไปด้วย พื้นผิวเทียม (99%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (41%)และพื้นผิวเทียม (37%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (48%)และพื้นที่เพาะปลูก (25%)