สภาพอากาศในฤดูใบไม้ผลิใน Bak Khlang กัมพูชา

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 32°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 29°C หรือสูงกว่า 34°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 32°C ในวันที่ 16 เมษายน

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 25°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 23°C หรือสูงกว่า 27°C อุณหภูมิต่ำเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 26°C ในวันที่ 18 พฤษภาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 14 เมษายน วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Bak Khlang โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 26°C ถึง 32°C ส่วน 16 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 23°C ถึง 31°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูใบไม้ผลิ แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

São Luís, บราซิล (ห่างออกไป 16,287 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Bak Khlang มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Bak Khlang กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูใบไม้ผลิใน Bak Khlang มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากเพิ่มขึ้นจาก 53% เป็น 93% โอกาสสูงสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 26 พฤษภาคม คือ 93%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ คือ 1 มีนาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 47% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 94% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 51% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Bak Khlang วันที่ฝนจะตกในฤดูใบไม้ผลิ มีโอกาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูมีโอกาส 18% ส่วนช่วงปลายฤดูมีโอกาส 73%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 84% ในวันที่ 7 สิงหาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 6% ในวันที่ 4 มกราคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูใบไม้ผลิใน Bak Khlang เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นฤดูอยู่ที่ 51 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 105 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 6 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายฤดูอยู่ที่ 419 มิลลิเมตร ซึ่งมีน้อยมากที่เกิน 628 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 228 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของฤดูใบไม้ผลิใน Bak Khlang ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 51 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 33 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 3 นาที และ 54 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูใบไม้ผลิคือวันที่ 1 มีนาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 55 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 พฤษภาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 45 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูใบไม้ผลิใน Bak Khlang คือ 06:23 ในวันที่ 1 มีนาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 40 นาที ในเวลา 05:43 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:17 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 11 นาที ในเวลา 18:28 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Bak Khlang ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:45 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 48 นาที ต่อมาที่เวลา 18:33 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:22 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 27 นาที ต่อมาที่ 17:49

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูใบไม้ผลิ ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน Bak Khlang โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นเพิ่มขึ้นช้า ๆในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 96% เป็น 100% ภายในฤดูนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 67% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Bak Khlang จะเพิ่มขึ้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเพิ่มขึ้นจาก 6.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 9.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 11.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 6.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมใน Bak Khlang ในช่วงฤดูใบไม้ผลิส่วนใหญ่มาจาก ทิศใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 9 พฤษภาคมและทิศตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม

Bak Khlang ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยใน Bak Khlang เพิ่มขึ้นช้า ๆในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยเพิ่มขึ้น 1°C จาก 29°C เป็น 30°C ภายในช่วงฤดูนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยสูงสุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ 31°C ในวันที่ 8 พฤษภาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Bak Khlang มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน Bak Khlang จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูใบไม้ผลิ โดยเพิ่มขึ้น 1,630°C จาก 1,012°C เป็น 2,642°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน Bak Khlang จะลดลงอย่างรวดเร็วมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยลดลง 2.1 กว.-ชม. จาก 6.1 กว.-ชม. เป็น 4.0 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยสูงสุดรายวันในช่วงฤดูใบไม้ผลิคือ 6.1 กว.-ชม. ในวันที่ 1 มีนาคม

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Bak Khlang คือละติจูดที่ 11.569° ลองจิจูดที่ 102.955° และระดับความสูง 4 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Bak Khlang มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 53 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (405 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (1,756 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Bak Khlang ปกคลุมไปด้วย ป่าชายเลน (46%)และน้ำ (44%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (58%)และป่าชายเลน (16%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (48%)และต้นไม้ (45%)