สภาพอากาศในฤดูร้อนใน Nur จีน

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 26°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 19°C หรือสูงกว่า 33°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 29°C ในวันที่ 27 กรกฎาคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 15°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 10°C หรือสูงกว่า 20°C อุณหภูมิต่ำเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 17°C ในวันที่ 27 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 26 กรกฎาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Nur โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 17°C ถึง 29°C ส่วน 16 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -6°C ถึง 4°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูร้อน แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Lewisburg, รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย, สหรัฐอเมริกา (ห่างออกไป 11,569 กิโลเมตร) Bolzano, อิตาลี (5,738 กิโลเมตร) และUgljevik, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (5,205 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Nur มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Nur กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

ฤดูร้อนใน Nur มีเมฆปกคลุม ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากลดลงจาก 42% เป็น 11%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูร้อน คือ 31 สิงหาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 89% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 59% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 6 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 89% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Nur วันที่ฝนจะตกในฤดูร้อน มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 4% ตลอดฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 5% ในวันที่ 11 มิถุนายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 0% ในวันที่ 28 ธันวาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูร้อนใน Nur อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 7 มิลลิเมตร ตลอดฤดู น้อยมากที่เกิน 24 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 8 มิลลิเมตร ในวันที่ 19 มิถุนายน

ตลอดระยะเวลาของฤดูร้อนใน Nur ความยาวของเวลากลางวันจะลดลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะลดลงไป 1 ชั่วโมง และ 30 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการลดลงรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 59 วินาที และมีการลดลงรายสัปดาห์เท่ากับ 6 นาที และ 53 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูร้อนคือวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 59 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 21 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 38 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของฤดูร้อนใน Nur คือเวลา 07:17 ในวันที่ 13 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือหลังจากนั้นอีก 49 นาที ในเวลา 08:06 ของวันที่ 31 สิงหาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ 21:57 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 52 นาที ในเวลา 21:05 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Nur ระหว่างปี พ.ศ. 2568

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:18 และตกในเวลาอีก 14 ชั่วโมง และ 38 นาที ต่อมาที่เวลา 21:56 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 09:43 และตกในเวลาอีก 9 ชั่วโมง และ 41 นาที ต่อมาที่ 19:24

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูร้อน ปี พ.ศ. 2568 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน Nur โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นอยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญในช่วงฤดูร้อน โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดทั้งฤดู

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Nur จะอยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ ในช่วงฤดูร้อน โดยคงอยู่ภายใน 0.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 12.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 13.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 8.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดรายวันในฤดูร้อน คือ 13.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 7 กรกฎาคม

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Nur ตลอดฤดูร้อนส่วนใหญ่คือ จากทิศเหนือ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 55% ในวันที่ 15 กรกฎาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน Nur จะมีเวลานาน 7.7 เดือน (235 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 22 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 13 พฤศจิกายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 2 มีนาคม หรือหลังวันที่ 13 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 27 ตุลาคม หรือหลังวันที่ 29 พฤศจิกายน

ฤดูร้อนใน Nur อยู่ภายในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมาโดยตลอด

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน Nur จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูร้อน โดยเพิ่มขึ้น 990°C จาก 352°C เป็น 1,342°C ภายในช่วงฤดูนั้น

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน Nur จะลดลงช้า ๆในช่วงฤดูร้อน โดยลดลง 0.7 กว.-ชม. จาก 7.5 กว.-ชม. เป็น 6.8 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยสูงสุดรายวันในช่วงฤดูร้อนคือ 7.9 กว.-ชม. ในวันที่ 5 กรกฎาคม

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Nur คือละติจูดที่ 36.325° ลองจิจูดที่ 81.060° และระดับความสูง 2,126 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Nur มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 163 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2,137 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (1,230 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ยังมีระดับความสูงที่แตกต่างกันมากอย่างยิ่งเช่นกัน (5,221 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Nur ปกคลุมไปด้วย ทุ่งหญ้า (87%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (62%)และทุ่งหญ้า (27%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (44%)และทุ่งหญ้า (43%)