1. WeatherSpark.com
  2. อินเดีย
  3. รัฐคุชราต
  4. Māndvi

สภาพอากาศในฤดูหนาวใน Māndvi อินเดีย

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 28°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 23°C หรือสูงกว่า 33°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 26°C ในวันที่ 8 มกราคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 17°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 12°C หรือสูงกว่า 22°C อุณหภูมิเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 15°C ในวันที่ 10 มกราคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 5 พฤษภาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Māndvi โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 27°C ถึง 34°C ส่วน 9 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 15°C ถึง 26°C

อุณหภูมิสูงและต่ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndvi

อุณหภูมิสูงและต่ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.10°C10°C15°C15°C20°C20°C25°C25°C30°C30°C35°C35°Cฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ8 ม.ค.26°C8 ม.ค.26°C15°C15°C1 ธ.ค.29°C1 ธ.ค.29°C19°C19°C28 ก.พ.29°C28 ก.พ.29°C19°C19°C1 ก.พ.27°C1 ก.พ.27°C16°C16°C
อุณหภูมิรายวันเฉลี่ยสูงสุด (เส้นสีแดง) และอุณหภูมิรายวันเฉลี่ยต่ำสุด (เส้นสีน้ำเงิน) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางเป็นอุณหภูมิที่รับรู้เฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยสรุปของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาว แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาวใน Māndvi

อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0000020204040606080810101212141416161818202022220000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิเย็นกำลังสบายกำลังสบายอุ่นร้อนร้อน
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมง ซึ่งเข้ารหัสสีเป็นแถบ โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

Broome, ออสเตรเลีย (ห่างออกไป 7,328 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Māndvi มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

แผนที่
หมุดแผนที่
© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Māndvi กับอีกเมืองหนึ่ง :

แผนที่

ฤดูหนาวใน Māndvi มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หรือมีเมฆเป็นส่วนมากยังคงอยู่ที่ประมาณ 15% ตลอดทั้งฤดู โอกาสสูงสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 5 ธันวาคม คือ 19%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดในฤดูหนาว คือ 15 กุมภาพันธ์ โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 88% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 68% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 89% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

ประเภทเมฆปกคลุมในฤดูหนาวใน Māndvi

ประเภทเมฆปกคลุมในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ2 พ.ย.89%2 พ.ย.89%1 ธ.ค.83%1 ธ.ค.83%28 ก.พ.86%28 ก.พ.86%1 ม.ค.84%1 ม.ค.84%1 ก.พ.88%1 ก.พ.88%แจ่มใสมืดครึ้มแจ่มใสเป็นส่วนมากมีเมฆเป็นส่วนมาก
0% แจ่มใส 20% แจ่มใสเป็นส่วนมาก 40% มีเมฆบางส่วน 60% มีเมฆเป็นส่วนมาก 80% มืดครึ้ม 100%
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแต่ละแถบเมฆปกคลุม โดยแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ของท้องฟ้าที่มีเมฆปกคลุม

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Māndvi วันที่ฝนจะตกในฤดูหนาว มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 1% ตลอดฤดู

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 26% ในวันที่ 30 กรกฎาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 0% ในวันที่ 21 ธันวาคม

ความน่าจะเป็นที่หยาดน้ำฟ้าจะตกในฤดูหนาวใน Māndvi

ความน่าจะเป็นที่หยาดน้ำฟ้าจะตกในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0.0%0.0%0.5%0.5%1.0%1.0%1.5%1.5%2.0%2.0%2.5%2.5%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ19 ธ.ค.0%19 ธ.ค.0%1 ธ.ค.1%1 ธ.ค.1%28 ก.พ.1%28 ก.พ.1%1 ม.ค.1%1 ม.ค.1%1 ก.พ.1%1 ก.พ.1%ฝน
เปอร์เซ็นต์ของวันที่ซึ่งพบว่ามีหยาดน้ำฟ้าหลายชนิด โดยไม่รวมปริมาณที่น้อยมาก : ฝนล้วน หิมะล้วน และผสม (ทั้งฝนและหิมะตกในวันเดียวกัน)

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในฤดูนั้น ๆ ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างฤดูหนาวใน Māndvi อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 2 มิลลิเมตร ตลอดฤดู น้อยมากที่เกิน 7 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 0 มิลลิเมตร ในวันที่ 22 ธันวาคม

ปริมาณน้ำฝนรายเดือนโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndvi

ปริมาณน้ำฝนรายเดือนโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0 มม.0 มม.5 มม.5 มม.10 มม.10 มม.15 มม.15 มม.20 มม.20 มม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ22 ธ.ค.0 มม.22 ธ.ค.0 มม.1 ธ.ค.3 มม.1 ธ.ค.3 มม.28 ก.พ.1 มม.28 ก.พ.1 มม.1 ม.ค.1 มม.1 ม.ค.1 มม.1 ก.พ.1 มม.1 ก.พ.1 มม.
ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย (เส้นทึบ) ที่สะสมตลอดช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน โดยมีจุดกึ่งกลางอยู่ตรงวันที่สนใจ พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90 เส้นประบางคือปริมาณหิมะเฉลี่ยที่เกี่ยวข้อง

ตลอดระยะเวลาของฤดูหนาวใน Māndvi ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นฤดูถึงสิ้นฤดู ความยาวของเวลากลางวันจะเพิ่มขึ้นไป 51 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีการเพิ่มขึ้นรายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 34 วินาที และมีการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์เท่ากับ 3 นาที และ 58 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของฤดูหนาวคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 44 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 41 นาที

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาในฤดูหนาวใน Māndvi

จำนวนชั่วโมงที่มีแสงสว่างกลางวันและแสงสนธยาในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0 ชม.24 ชม.4 ชม.20 ชม.8 ชม.16 ชม.12 ชม.12 ชม.16 ชม.8 ชม.20 ชม.4 ชม.24 ชม.0 ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ21 ธ.ค.10 ชม. 44 นาที21 ธ.ค.10 ชม. 44 นาทีกลางคืนกลางคืนกลางวันกลางวัน1 ธ.ค.10 ชม. 50 นาที1 ธ.ค.10 ชม. 50 นาที28 ก.พ.11 ชม. 41 นาที28 ก.พ.11 ชม. 41 นาที1 ก.พ.11 ชม. 9 นาที1 ก.พ.11 ชม. 9 นาที
จำนวนชั่วโมงที่มองเห็นดวงอาทิตย์ (เส้นสีดำ) จากด้านล่าง (สีเหลืองมากที่สุด) ไปด้านบน (สีเทามากที่สุด) แถบสีแสดง : เวลากลางวันเต็มที่, สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และเวลากลางคืนเต็มที่

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดในฤดูหนาวใน Māndvi คือ 07:35 ในวันที่ 15 มกราคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 21 นาที ในเวลา 07:14 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:06 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 49 นาที ในเวลา 18:55 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Māndvi ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:08 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 32 นาที ต่อมาที่เวลา 19:40 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:28 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 44 นาที ต่อมาที่ 18:12

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาในฤดูหนาวใน Māndvi

อาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกพร้อมแสงสนธยาในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.020406081012141618202200ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ07:1407:1428 ก.พ.18:5528 ก.พ.18:5507:1607:161 ธ.ค.18:061 ธ.ค.18:0607:3507:3515 ม.ค.18:2815 ม.ค.18:2807:3307:331 ม.ค.18:191 ม.ค.18:1907:3207:321 ก.พ.18:401 ก.พ.18:40เที่ยงคืนสุริยะเที่ยงคืนสุริยะเที่ยงสุริยะพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก
วันสุริยะคติในฤดูหนาว จากด้านล่างไปด้านบน เส้นสีดำคือ เที่ยงคืนสุริยะก่อนหน้านี้ อาทิตย์ขึ้น เที่ยงสุริยะ อาทิตย์ตก และเที่ยงคืนสุริยะครั้งถัดไป กลางวัน สนธยา (ทางการ, เดินเรือ, และทางดาราศาสตร์) และกลางคืนแสดงให้เห็นด้วยแถบสีจากสีเหลืองไปยังสีเทา

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวใน Māndvi

ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0000020204040606080810101212141416161818202022220000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ0010202030304050001010203030404060
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
ระดับความสูงดวงอาทิตย์และมุมทิศในฤดูหนาวของปี พ.ศ. 2567 เส้นสีดำเป็นเส้นแสดงระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า ในหน่วยองศา) สีที่เติมบนพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศ (ทิศทางที่มุ่งหน้าตามเข็มทิศ) ของดวงอาทิตย์ พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตของจุดหลักสี่จุดบนเข็มทิศระบุทิศทางระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมในฤดูหนาวใน Māndvi

พระจันทร์ขึ้น พระจันทร์ตก และข้างขึ้นข้างแรมในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0000040408081212161620200000ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ1 พ.ย.18:181 พ.ย.18:1816 พ.ย.02:5916 พ.ย.02:591 ธ.ค.11:521 ธ.ค.11:5215 ธ.ค.14:3215 ธ.ค.14:3231 ธ.ค.03:5831 ธ.ค.03:5814 ม.ค.03:5814 ม.ค.03:5829 ม.ค.18:0729 ม.ค.18:0712 ก.พ.19:2412 ก.พ.19:2428 ก.พ.06:1528 ก.พ.06:1514 มี.ค.12:2514 มี.ค.12:2529 มี.ค.16:2829 มี.ค.16:2806:3806:3818:0118:0117:3417:3407:2507:2507:1607:1618:0218:0218:0318:0308:2408:2407:5707:5718:4118:4117:5217:5208:0008:0007:2807:2818:3318:3318:4018:4007:5607:5607:2507:2519:2419:2418:2018:2007:0007:0006:3206:3219:1019:10
เวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า (พื้นที่สีน้ำเงินอ่อน) โดยระบุเวลาที่จันทร์ดับ (เส้นสีเทาเข้ม) และจันทร์เต็มดวง (เส้นสีน้ำเงิน) โอเวอร์เลย์ที่แรเงาไว้ระบุเวลากลางคืนและสนธยาทางการ

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

ใน Māndvi โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะมีอากาศร้อนอบอ้าวนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูหนาว โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 16% เป็น 26% ภายในฤดูนั้น

โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวในช่วงฤดูหนาวคือ 6% ในวันที่ 5 มกราคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 22 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 6% ของเวลาทั้งหมด

ระดับความสบายต่อความชื้นในฤดูหนาวใน Māndvi

ระดับความสบายต่อความชื้นในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0%0%10%10%20%20%30%30%40%40%50%50%60%60%70%70%80%80%90%90%100%100%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ5 ม.ค.6%5 ม.ค.6%1 ธ.ค.16%1 ธ.ค.16%28 ก.พ.26%28 ก.พ.26%1 ก.พ.12%1 ก.พ.12%ร้อนและไม่มีลมร้อนและไม่มีลมร้อนอบอ้าวร้อนอบอ้าวอบอ้าวอบอ้าวกำลังสบายกำลังสบายแห้งแห้ง
แห้ง 13°C กำลังสบาย 16°C อบอ้าว 18°C ร้อนอบอ้าว 21°C ร้อนและไม่มีลม 24°C มีความชื้นสูงมาก
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในระดับความสบายต่อความชื้นต่าง ๆ โดยแบ่งตามจุดน้ำค้าง

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมงใน Māndvi จะเพิ่มขึ้นช้า ๆ ในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้นจาก 14.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 15.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในช่วงฤดูกาลนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 25.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 27 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 12.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndvi

ความเร็วลมเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0 กม./ชม.0 กม./ชม.5 กม./ชม.5 กม./ชม.10 กม./ชม.10 กม./ชม.15 กม./ชม.15 กม./ชม.20 กม./ชม.20 กม./ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ1 ธ.ค.14.1 กม./ชม.1 ธ.ค.14.1 กม./ชม.28 ก.พ.15.2 กม./ชม.28 ก.พ.15.2 กม./ชม.1 ม.ค.15.4 กม./ชม.1 ม.ค.15.4 กม./ชม.1 ก.พ.14.9 กม./ชม.1 ก.พ.14.9 กม./ชม.
ค่าเฉลี่ยของความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง (เส้นสีเทาเข้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

ทิศทางลมใน Māndvi ในช่วงฤดูหนาวส่วนใหญ่มาจาก ทิศเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์และทิศตะวันตก ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์

ทิศทางลมในช่วงฤดูหนาวใน Māndvi

ทิศทางลมในช่วงฤดูหนาวใน Māndviน.ต.ต.ธ.ค.ม.ค.ก.พ.0%100%20%80%40%60%60%40%80%20%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิตะวันตกเหนือตะวันออก
เหนือตะวันออกใต้ตะวันตก
เปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ซึ่งทิศทางลมเฉลี่ยมาจากทิศหลักของลมทั้ง 4 ทิศ โดยไม่รวมถึงจำนวนชั่วโมงที่มีความเร็วลมเฉลี่ยน้อยกว่า 1.6 กม./ชม. พื้นที่ที่มีสีอ่อนตรงขอบเขตคือเปอร์เซ็นต์ของชั่วโมงที่ใช้ไปกับทิศระหว่างกลางโดยนัย (ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ)

Māndvi ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยใน Māndvi ลดลงในช่วงฤดูหนาว โดยลดลง 3°C จาก 25°C เป็น 23°C ภายในช่วงฤดูนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ยต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวคือ 22°C ในวันที่ 29 มกราคม

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndvi

อุณหภูมิน้ำโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.20°C20°C21°C21°C22°C22°C23°C23°C24°C24°C25°C25°C26°C26°C27°C27°C28°C28°C29°C29°Cฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ29 ม.ค.22°C29 ม.ค.22°C1 ธ.ค.25°C1 ธ.ค.25°C28 ก.พ.23°C28 ก.พ.23°C1 ม.ค.23°C1 ม.ค.23°C
อุณหภูมิน้ำเฉลี่ยรายวัน (เส้นสีม่วง) พร้อมแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Māndvi มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูหนาวใน Māndvi

เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0%100%10%90%20%80%30%70%40%60%50%50%60%40%70%30%80%20%90%10%100%0%ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ100%15 ม.ค.100%15 ม.ค.เย็นกำลังสบายอุ่นร้อนหนาวร้อนระอุ
เยือกเย็น -9°C ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง 0°C หนาวจัด 7°C หนาว 13°C เย็น 18°C กำลังสบาย 24°C อุ่น 29°C ร้อน 35°C ร้อนระอุ
เปอร์เซ็นต์ของเวลาที่ใช้ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ เส้นสีดำคือโอกาสเป็นเปอร์เซ็นต์ที่วันหนึ่ง ๆ จะอยู่ในช่วงฤดูเพาะปลูก

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยใน Māndvi จะลดลงอย่างรวดเร็วมากระหว่างฤดูหนาว โดยลดลง 4,956°C จาก 5,624°C เป็น 668°C ภายในช่วงฤดูนั้น

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกในฤดูหนาวใน Māndvi

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.1,000°C1,000°C2,000°C2,000°C3,000°C3,000°C4,000°C4,000°C5,000°C5,000°C6,000°C6,000°Cฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ1 ธ.ค.5,624°C1 ธ.ค.5,624°C28 ก.พ.668°C28 ก.พ.668°C
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ยที่สะสมตลอดช่วงฤดูหนาว พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวันใน Māndvi จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยเพิ่มขึ้น 1.5 กว.-ชม. จาก 4.8 กว.-ชม. เป็น 6.2 กว.-ชม. ภายในฤดูนั้น

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันในช่วงฤดูหนาวคือ 4.7 กว.-ชม. ในวันที่ 19 ธันวาคม

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndvi

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันโดยเฉลี่ยในฤดูหนาวใน Māndviธ.ค.ม.ค.ก.พ.0 กว.-ชม.0 กว.-ชม.1 กว.-ชม.1 กว.-ชม.2 กว.-ชม.2 กว.-ชม.3 กว.-ชม.3 กว.-ชม.4 กว.-ชม.4 กว.-ชม.5 กว.-ชม.5 กว.-ชม.6 กว.-ชม.6 กว.-ชม.7 กว.-ชม.7 กว.-ชม.8 กว.-ชม.8 กว.-ชม.ฤดูใบไม้ร่วงฤดูใบไม้ผลิ19 ธ.ค.4.7 กว.-ชม.19 ธ.ค.4.7 กว.-ชม.1 ธ.ค.4.8 กว.-ชม.1 ธ.ค.4.8 กว.-ชม.28 ก.พ.6.2 กว.-ชม.28 ก.พ.6.2 กว.-ชม.1 ก.พ.5.4 กว.-ชม.1 ก.พ.5.4 กว.-ชม.
ค่าพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นรายวันโดยเฉลี่ยที่ตกกระทบพื้นดินต่อตารางเมตร (เส้นสีส้ม) พร้อมด้วยแถบเปอร์เซ็นไทล์ที่ 25 ถึง 75 และ 10 ถึง 90

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Māndvi คือละติจูดที่ 22.833° ลองจิจูดที่ 69.352° และระดับความสูง 11 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Māndvi มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 20 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 6 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (77 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (437 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Māndvi ปกคลุมไปด้วย น้ำ (33%) พื้นที่เพาะปลูก (32%) และทุ่งหญ้า (18%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (48%)และพื้นที่เพาะปลูก (38%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (47%)และพื้นที่เพาะปลูก (28%)

รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน Māndvi โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559

อุณหภูมิและจุดน้ำค้าง

มีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ 2 แห่งที่อยู่ใกล้เพียงพอที่จะส่งผลต่อการประมาณค่าอุณหภูมิและจุดน้ำค้างของเราในเมือง Māndvi

ในแต่ละสถานี บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีนั้นกับ Māndvi ตาม บรรยากาศมาตรฐานสากล , และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน การวิเคราะห์ซ้ำในยุคดาวเทียม MERRA-2 ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง

ค่าโดยประมาณที่เมือง Māndvi ได้รับการคำนวณเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของแต่ละค่าที่ได้รับจากแต่ละสถานี โดยมีค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเป็นสัดส่วนผกผันกับระยะห่างระหว่างเมือง Māndvi กับสถานีที่กำหนดไว้

สถานีที่มีส่วนช่วยในการสร้างครั้งนี้ได้แก่:

  • Bhuj Airport (VABJ, 81%, 60 กม., ตะวันออกเฉียงเหนือ, ระดับความสูงเปลี่ยนไป 70 ม.)
  • Rajkot Airport (VARK, 19%, 158 กม., ตะวันออก, ระดับความสูงเปลี่ยนไป 123 ม.)

หากต้องการทำความเข้าใจว่าแหล่งข้อมูลเหล่านี้ให้ข้อมูลที่ตรงกันมากน้อยเพียงใด คุณสามารถดูการเปรียบเทียบระหว่าง Māndvi กับสถานีที่ช่วยให้เราประมาณสถิติอุณหภูมิและสภาพอากาศ โปรดทราบว่า ข้อมูลจากแต่ละแหล่งได้รับการปรับให้เหมาะสมกับระดับความสูงและการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ในข้อมูล MERRA-2 แล้ว

ข้อมูลอื่น ๆ

ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus

ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร

ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่

ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่

ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames

AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ

แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม

ข้อสงวนสิทธิ์

ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้

เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก

เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ

กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา