สภาพอากาศของเดือนมีนาคม ใน ดามัสกัส ซีเรียอุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 5°C จาก 15°C เป็น 20°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 10°C หรือสูงกว่า 26°C อุณหภูมิต่ำรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 3°C จาก 4°C เป็น 6°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า -0°C หรือสูงกว่า 10°C สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 31 กรกฎาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน ดามัสกัส โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 19°C ถึง 36°C ส่วน 21 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 1°C ถึง 11°C ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน มีนาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในเดือน มีนาคม ใน ดามัสกัส
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
Rancho Tehama Reserve, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา (ห่างออกไป 11,564 กิโลเมตร)และYucca Valley, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา (11,988 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ ดามัสกัส มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเดือน มีนาคม ใน ดามัสกัส มีเมฆปกคลุม ลดลงช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ลดลง จาก 32% เป็น 28% วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 28 มีนาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 72% ของเวลา สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 37% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 100% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน ดามัสกัส วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน มีนาคม มีโอกาส ลดลง โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 16% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 10% สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 22% ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ -0% ในวันที่ 18 กรกฎาคม ปริมาณน้ำฝนเพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วง 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน มีนาคม ใน ดามัสกัส ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 28 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 60 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 5 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 16 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 43 มิลลิเมตร ดวงอาทิตย์ตลอดระยะเวลาของวันที่ มีนาคม ใน ดามัสกัส ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 1 ชั่วโมง และ 2 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 2 นาที และ 5 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 14 นาที และ 34 วินาที วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 มีนาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 29 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 มีนาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 12 ชั่วโมง และ 31 นาที เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ใน ดามัสกัส คือ 07:02 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 39 นาที ในเวลา 06:23 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:31 เมื่อวันที่ 1 มีนาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 23 นาที ในเวลา 18:54 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน ดามัสกัส ระหว่างปี พ.ศ. 2567 สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:25 และตกในเวลาอีก 14 ชั่วโมง และ 23 นาที ต่อมาที่เวลา 19:47 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:35 และตกในเวลาอีก 9 ชั่วโมง และ 56 นาที ต่อมาที่ 17:31 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน มีนาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า
ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน ดามัสกัส is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มีนาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 1% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน ดามัสกัส is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มีนาคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 13.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 14.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 10.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน ดามัสกัส ตลอดเดือน มีนาคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศตะวันตก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 51% ในวันที่ 1 มีนาคม ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ใน ดามัสกัส จะมีเวลานาน 8.8 เดือน (270 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 9 มีนาคม ถึงประมาณวันที่ 3 ธันวาคม น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หรือหลังวันที่ 6 เมษายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 10 พฤศจิกายน หรือหลังวันที่ 28 ธันวาคม ระหว่างเดือน มีนาคม ใน ดามัสกัส โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะอยู่ภายในช่วงฤดูกาลเพาะปลูก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น จาก 36% เป็น 85% ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกใน มีนาคม ใน ดามัสกัส
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน ดามัสกัส เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน มีนาคม โดยเพิ่มขึ้น 85°C จาก 45°C เป็น 129°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน ดามัสกัส เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน มีนาคม โดยเพิ่มขึ้น 1.5 กว.-ชม. จาก 4.9 กว.-ชม. เป็น 6.3 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ ดามัสกัส คือละติจูดที่ 33.510° ลองจิจูดที่ 36.291° และระดับความสูง 701 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ ดามัสกัส มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญมาก โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 479 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 718 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (991 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันมาก (2,808 เมตร) พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ ดามัสกัส ปกคลุมไปด้วย พื้นผิวเทียม (84%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (32%)และผืนดินว่างเปล่า (31%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ผืนดินว่างเปล่า (41%)และพื้นที่เพาะปลูก (24%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ใน ดามัสกัส โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 อุณหภูมิและจุดน้ำค้างมีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ 3 แห่งที่อยู่ใกล้เพียงพอที่จะส่งผลต่อการประมาณค่าอุณหภูมิและจุดน้ำค้างของเราในเมือง ดามัสกัส ในแต่ละสถานี บันทึกข้อมูลของสถานีได้รับการแก้ไขเพื่อชดเชยความแตกต่างของระดับความสูงระหว่างสถานีนั้นกับ ดามัสกัส ตาม บรรยากาศมาตรฐานสากล , และโดยการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ใน การวิเคราะห์ซ้ำในยุคดาวเทียม MERRA-2 ระหว่างตำแหน่งที่ตั้งทั้งสองแห่ง ค่าโดยประมาณที่เมือง ดามัสกัส ได้รับการคำนวณเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของแต่ละค่าที่ได้รับจากแต่ละสถานี โดยมีค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเป็นสัดส่วนผกผันกับระยะห่างระหว่างเมือง ดามัสกัส กับสถานีที่กำหนดไว้ สถานีที่มีส่วนช่วยในการสร้างครั้งนี้ได้แก่:
หากต้องการทำความเข้าใจว่าแหล่งข้อมูลเหล่านี้ให้ข้อมูลที่ตรงกันมากน้อยเพียงใด คุณสามารถดูการเปรียบเทียบระหว่าง ดามัสกัส กับสถานีที่ช่วยให้เราประมาณสถิติอุณหภูมิและสภาพอากาศ โปรดทราบว่า ข้อมูลจากแต่ละแหล่งได้รับการปรับให้เหมาะสมกับระดับความสูงและการเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์ที่มีอยู่ในข้อมูล MERRA-2 แล้ว ข้อมูลอื่น ๆข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่ ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) |