สภาพอากาศของเดือนพฤษภาคม ใน San Buenaventura เม็กซิโก

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 2°C จาก 35°C เป็น 36°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 29°C หรือสูงกว่า 41°C

อุณหภูมิต่ำรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 3°C จาก 21°C เป็น 24°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 17°C หรือสูงกว่า 26°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 13 มิถุนายน วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน San Buenaventura โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 25°C ถึง 37°C ส่วน 5 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 8°C ถึง 21°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน พฤษภาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Asyūţ, อียิปต์ (ห่างออกไป 12,162 กิโลเมตร) Najrān, ซาอุดีอาระเบีย (13,846 กิโลเมตร) และMount Isa, ออสเตรเลีย (13,842 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ San Buenaventura มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ San Buenaventura กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน พฤษภาคม ใน San Buenaventura มีเมฆปกคลุม ลดลง โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ลดลง จาก 33% เป็น 21%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 31 พฤษภาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 79% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 46% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 3 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 79% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน San Buenaventura วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน พฤษภาคม มีโอกาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 11% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 18%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 22% ในวันที่ 5 กันยายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 4% ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน พฤษภาคม ใน San Buenaventura เพิ่มขึ้นช้า ๆ โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 24 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 54 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 37 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 72 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของวันที่ พฤษภาคม ใน San Buenaventura ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 31 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 นาที และ 3 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 7 นาที และ 20 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 พฤษภาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 13 ชั่วโมง และ 13 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 พฤษภาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 13 ชั่วโมง และ 44 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ใน San Buenaventura คือ 06:07 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 15 นาที ในเวลา 05:52 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 19:19 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 16 นาที ในเวลา 19:36 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน San Buenaventura ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:52 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 51 นาที ต่อมาที่เวลา 19:43 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:31 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 26 นาที ต่อมาที่ 17:57

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พฤษภาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน San Buenaventura เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ระหว่างเดือน พฤษภาคม เพิ่มขึ้น จาก 13% เป็น 44% ตลอดช่วงเวลาของเดือนนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 3 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 61% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 19 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 0% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน San Buenaventura is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน พฤษภาคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 11.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 12.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 21 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 9.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำสุดรายวันระหว่างเดือน พฤษภาคม คือ 11.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 13 พฤษภาคม

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน San Buenaventura ตลอดเดือน พฤษภาคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศตะวันออก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 72% ในวันที่ 31 พฤษภาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

แม้ว่าไม่เป็นเช่นนั้นทุกปี แต่ฤดูหนาวบางปี ใน San Buenaventura จะมีอุณหภูมิเยือกแข็งบ้าง วันที่ที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะอยู่ในฤดูเพาะปลูกคือ 7 มกราคม โดยมีโอกาส 69%

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน San Buenaventura เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ระหว่างเดือน พฤษภาคม โดยเพิ่มขึ้น 506°C จาก 1,149°C เป็น 1,655°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน San Buenaventura is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน พฤษภาคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.1 กว.-ชม. ของ 7.4 กว.-ชม. ตลอดเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ San Buenaventura คือละติจูดที่ 27.062° ลองจิจูดที่ -101.549° และระดับความสูง 499 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ San Buenaventura มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 36 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 497 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (625 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันมาก (2,478 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ San Buenaventura ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (98%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (99%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (92%)