สภาพอากาศของเดือนมิถุนายน ใน Palmeira das Missões บราซิล

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 19°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 13°C หรือสูงกว่า 24°C

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 11°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 4°C หรือสูงกว่า 17°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 14 มกราคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Palmeira das Missões โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 20°C ถึง 29°C ส่วน 19 กรกฎาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 10°C ถึง 19°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน มิถุนายน ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

บริสเบน, ออสเตรเลีย (ห่างออกไป 13,262 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Palmeira das Missões มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Palmeira das Missões กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน มิถุนายน ใน Palmeira das Missões มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ยังคงอยู่ที่ประมาณ 47% ตลอดทั้งเดือน โอกาสสูงสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 14 มิถุนายน คือ 49%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 1 มิถุนายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 56% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 14 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 49% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 66% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Palmeira das Missões วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน มิถุนายน มีโอกาส เพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 32% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 37%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 52% ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 29% ในวันที่ 25 สิงหาคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน มิถุนายน ใน Palmeira das Missões อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 150 มิลลิเมตร ตลอดเดือน น้อยมากที่เกิน 267 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 53 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 153 มิลลิเมตร ในวันที่ 23 มิถุนายน

ตลอดระยะเวลาของวันที่ มิถุนายน ใน Palmeira das Missões ความยาวของเวลากลางวัน อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 20 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 22 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 มิถุนายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 29 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของเดือน ใน Palmeira das Missões คือ 07:16 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 8 นาที ในเวลา 07:25 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:44 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 4 นาที ในเวลา 17:49 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Palmeira das Missões ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:34 และตกในเวลาอีก 13 ชั่วโมง และ 55 นาที ต่อมาที่เวลา 19:29 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:23 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 22 นาที ต่อมาที่ 17:46

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน มิถุนายน 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน Palmeira das Missões ลดลงช้า ๆ ระหว่างเดือน มิถุนายน ลดลง จาก 4% เป็น 2% ตลอดช่วงเวลาของเดือนนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 57% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 2% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Palmeira das Missões เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน มิถุนายน โดยเพิ่มขึ้นจาก 12.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 13.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 14.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 10.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Palmeira das Missões ตลอดเดือน มิถุนายน ส่วนใหญ่คือจาก ทิศเหนือ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 46% ในวันที่ 29 มิถุนายน

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Palmeira das Missões มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน Palmeira das Missões เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน มิถุนายน โดยเพิ่มขึ้น 150°C จาก 3,400°C เป็น 3,550°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Palmeira das Missões is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน มิถุนายน โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.1 กว.-ชม. ของ 3.2 กว.-ชม. ตลอดเดือน

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยต่ำสุดรายวันระหว่างเดือน มิถุนายน คือ 3.1 กว.-ชม. ในวันที่ 22 มิถุนายน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Palmeira das Missões คือละติจูดที่ -27.899° ลองจิจูดที่ -53.314° และระดับความสูง 623 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Palmeira das Missões มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 94 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 587 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (232 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (590 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Palmeira das Missões ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (43%) พุ่มไม้ (24%) ต้นไม้ (18%) และทุ่งหญ้า (15%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (53%)และต้นไม้ (26%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (48%)และต้นไม้ (27%)