สภาพอากาศของเดือนธันวาคม ใน San Pablo โคลอมเบีย

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 1°C จาก 33°C เป็น 34°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 30°C หรือสูงกว่า 35°C

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 24°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 22°C หรือสูงกว่า 25°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 22 มีนาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน San Pablo โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 25°C ถึง 35°C ส่วน 10 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 23°C ถึง 34°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน ธันวาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

กรุงเทพมหานคร, ไทย (ห่างออกไป 17,346 กิโลเมตร) Situbondo, อินโดนีเซีย (18,984 กิโลเมตร) และLimaong, ฟิลิปปินส์ (17,284 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ San Pablo มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ San Pablo กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน ธันวาคม ใน San Pablo มีเมฆปกคลุม ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ลดลง จาก 78% เป็น 56%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 31 ธันวาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 44% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 95% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 13 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 49% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน San Pablo วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน ธันวาคม มีโอกาส ลดลงอย่างรวดเร็วมาก โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 20% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 4%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 50% ในวันที่ 17 ตุลาคม และโอกาสน้อยที่สุดคือ 1% ในวันที่ 20 มกราคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วง 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน ธันวาคม ใน San Pablo ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 56 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 149 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 9 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 30 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของวันที่ ธันวาคม ใน San Pablo ความยาวของเวลากลางวัน อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 21 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 32 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 ธันวาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 35 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของเดือน ใน San Pablo คือ 06:02 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 15 นาที ในเวลา 06:17 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:37 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 13 นาที ในเวลา 17:50 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน San Pablo ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:41 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 43 นาที ต่อมาที่เวลา 18:24 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:13 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 32 นาที ต่อมาที่ 17:45

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน ธันวาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน San Pablo is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน ธันวาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 100% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 26 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 98% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน San Pablo เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน ธันวาคม โดยเพิ่มขึ้นจาก 7.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 8.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 11.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 6.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน San Pablo ตลอดเดือน ธันวาคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศเหนือ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 70% ในวันที่ 30 ธันวาคม

San Pablo ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ย ใน San Pablo อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน ธันวาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 28°C ตลอดเดือน

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน San Pablo มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน San Pablo เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ระหว่างเดือน ธันวาคม โดยเพิ่มขึ้น 512°C จาก 5,892°C เป็น 6,404°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน San Pablo เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน ธันวาคม โดยเพิ่มขึ้น 1.1 กว.-ชม. จาก 4.3 กว.-ชม. เป็น 5.4 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ San Pablo คือละติจูดที่ 10.052° ลองจิจูดที่ -75.268° และระดับความสูง 14 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ San Pablo มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 123 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 15 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (539 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมาก (844 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ San Pablo ปกคลุมไปด้วย ทุ่งหญ้า (33%) ต้นไม้ (29%) พื้นที่เพาะปลูก (23%) และพุ่มไม้ (15%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (30%)และทุ่งหญ้า (23%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (35%)และทุ่งหญ้า (29%)