สภาพอากาศของเดือนสิงหาคม ใน เกาะคริสต์มาส เกาะคริสต์มาส

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 27°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 26°C หรือสูงกว่า 28°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันต่ำสุดคือ 27°C ในวันที่ 22 สิงหาคม

อุณหภูมิต่ำรายวันอยู่ที่ประมาณ 24°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 23°C หรือสูงกว่า 25°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 22 มีนาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน เกาะคริสต์มาส โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 25°C ถึง 29°C ส่วน 28 สิงหาคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 24°C ถึง 27°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน สิงหาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ เกาะคริสต์มาส กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน สิงหาคม ใน เกาะคริสต์มาส มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก เพิ่มขึ้น จาก 54% เป็น 61%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 1 สิงหาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 46% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 75% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 46% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน เกาะคริสต์มาส วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน สิงหาคม มีโอกาส ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 7% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 4%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 55% ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และโอกาสน้อยที่สุดคือ 4% ในวันที่ 4 กันยายน

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน สิงหาคม ใน เกาะคริสต์มาส ลดลงช้า ๆ โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 15 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 45 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 6 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 16 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 6 มิลลิเมตร ในวันที่ 26 สิงหาคม

ตลอดระยะเวลาของวันที่ สิงหาคม ใน เกาะคริสต์มาส ความยาวของเวลากลางวัน อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 40 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 31 สิงหาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 54 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ใน เกาะคริสต์มาส คือ 06:13 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 13 นาที ในเวลา 06:00 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 17:53 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 1 นาที และ 21 วินาที ในเวลา 17:54 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน เกาะคริสต์มาส ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:33 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 45 นาที ต่อมาที่เวลา 18:17 ส่วนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:13 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 31 นาที ต่อมาที่ 17:44

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน สิงหาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน เกาะคริสต์มาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน สิงหาคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 1% ของ 97% ตลอดเดือน

โอกาสต่ำสุดที่จะมีวันร้อนอบอ้าวระหว่างเดือน สิงหาคม คือ 96% ในวันที่ 18 สิงหาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 17 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 96% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน เกาะคริสต์มาส is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน สิงหาคม โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 27.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 28.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 15.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยสูงสุดรายวันระหว่างเดือน สิงหาคม คือ 28.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในวันที่ 9 สิงหาคม

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน เกาะคริสต์มาส ตลอดเดือน สิงหาคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศตะวันออก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 96% ในวันที่ 7 สิงหาคม

เกาะคริสต์มาส ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น

อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ย ใน เกาะคริสต์มาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน สิงหาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 26°C ตลอดเดือน

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน เกาะคริสต์มาส มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน เกาะคริสต์มาส เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน สิงหาคม โดยเพิ่มขึ้น 454°C จาก 479°C เป็น 932°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน เกาะคริสต์มาส เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน สิงหาคม โดยเพิ่มขึ้น 0.6 กว.-ชม. จาก 5.6 กว.-ชม. เป็น 6.2 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ เกาะคริสต์มาส คือละติจูดที่ -10.500° ลองจิจูดที่ 105.667° และระดับความสูง 0 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ เกาะคริสต์มาส มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 0 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 0 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (0 เมตร) เช่นกัน

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ เกาะคริสต์มาส ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ (57%)และน้ำ (30%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (87%)และต้นไม้ (10%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (99%)