สภาพอากาศของเดือนพฤศจิกายน ที่ Scholes Field สหรัฐอเมริกาอุณหภูมิสูงรายวัน ลดลง ไป 4°C จาก 24°C เป็น 20°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 13°C หรือสูงกว่า 28°C อุณหภูมิต่ำรายวัน ลดลง ไป 5°C จาก 18°C เป็น 13°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 7°C หรือสูงกว่า 23°C สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 5 สิงหาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ที่ Scholes Field โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 27°C ถึง 32°C ส่วน 6 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 9°C ถึง 16°C ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน พฤศจิกายน ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว อุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในเดือน พฤศจิกายน ที่ Scholes Field
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
Luxu, จีน (ห่างออกไป 13,668 กิโลเมตร)และเซี่ยเหมิน, จีน (13,094 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Scholes Field มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ) เมฆเดือน พฤศจิกายน ที่ Scholes Field มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก เพิ่มขึ้น จาก 34% เป็น 39% วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 6 พฤศจิกายน โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 67% ของเวลา สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 53% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 69% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน หยาดน้ำฟ้าวันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ที่ Scholes Field วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 27% ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 42% ในวันที่ 3 กันยายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 22% ในวันที่ 31 มีนาคม ปริมาณน้ำฝนเพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ที่ Scholes Field ลดลง โดยในช่วงต้นเดือนอยู่ที่ 118 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 261 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 18 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงปลายเดือนอยู่ที่ 102 มิลลิเมตร น้อยมากที่เกิน 183 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 31 มิลลิเมตร ดวงอาทิตย์ตลอดระยะเวลาของวันที่ พฤศจิกายน ที่ Scholes Field ความยาวของเวลากลางวัน ลดลง ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน ลดลง ไป 35 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การลดลง รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 นาที และ 13 วินาที และมี การลดลง รายสัปดาห์เท่ากับ 8 นาที และ 29 วินาที วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 10 ชั่วโมง และ 25 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 0 นาที เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ที่ Scholes Field คือ 07:33 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 59 นาที ในเวลา 06:34 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ 18:32 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และเวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง และ 12 นาที ในเวลา 17:20 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลาออมแสง (DST) เริ่มต้นที่เวลา 01:00 ของวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งปรับเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกให้ช้าลงหนึ่งชั่วโมง สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:20 และตกในเวลาอีก 14 ชั่วโมง และ 1 นาที ต่อมาที่เวลา 20:21 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:09 และตกในเวลาอีก 10 ชั่วโมง และ 16 นาที ต่อมาที่ 17:26 รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า
ความชื้นเราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ที่ Scholes Field ลดลงอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ลดลง จาก 41% เป็น 22% ตลอดช่วงเวลาของเดือนนั้น สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 22 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 3% ของเวลาทั้งหมด ลมเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Scholes Field is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ 18.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเดือน สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 24 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 19.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 13.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทิศทางลม ที่ Scholes Field ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ส่วนใหญ่มาจาก ทิศตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนและทิศใต้ ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน อุณหภูมิน้ำScholes Field ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำขนาดใหญ่ (เช่น มหาสมุทร ทะเล หรือทะเลสาบขนาดใหญ่) เนื้อหาในส่วนนี้จะรายงานเกี่ยวกับอุณหภูมิน้ำผิวดินในพื้นที่กว้างโดยเฉลี่ยของแหล่งน้ำนั้น อุณหภูมิน้ำผิวดินเฉลี่ย ที่ Scholes Field ลดลง ระหว่างเดือน พฤศจิกายน, ลดลง 4°C จาก 23°C เป็น 20°C ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน ฤดูกาลเพาะปลูกคำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้) แม้ว่าไม่เป็นเช่นนั้นทุกปี แต่ฤดูหนาวบางปี ที่ Scholes Field จะมีอุณหภูมิเยือกแข็งบ้าง วันที่ที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะอยู่ในฤดูเพาะปลูกคือ 16 มกราคม โดยมีโอกาส 66% เวลาที่อยู่ในแถบอุณหภูมิต่าง ๆ และฤดูกาลเพาะปลูกใน พฤศจิกายน ที่ Scholes Field
เยือกเย็น
-9°C
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
0°C
หนาวจัด
7°C
หนาว
13°C
เย็น
18°C
กำลังสบาย
24°C
อุ่น
29°C
ร้อน
35°C
ร้อนระอุ
ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ที่ Scholes Field เพิ่มขึ้น ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้น 242°C จาก 3,862°C เป็น 4,104°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน พลังงานแสงอาทิตย์หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ที่ Scholes Field ลดลงช้า ๆ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน โดยลดลง 0.9 กว.-ชม. จาก 4.1 กว.-ชม. เป็น 3.3 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน ภูมิประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Scholes Field คือละติจูดที่ 29.266° ลองจิจูดที่ -94.860° และระดับความสูง 1 ม. ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Scholes Field มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 3 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ก็มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (8 เมตร) เช่นกัน ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (34 เมตร) พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Scholes Field ปกคลุมไปด้วย พื้นผิวเทียม (45%) น้ำ (26%) และไม้ล้มลุก (14%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (73%)และไม้ล้มลุก (10%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย น้ำ (57%)และพื้นที่เพาะปลูก (18%) แหล่งข้อมูลรายงานนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพอากาศทั่วไป ที่ Scholes Field โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางสถิติของรายงานสภาพอากาศรายชั่วโมงในอดีตและการสร้างแบบจำลองขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2523 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 อุณหภูมิและจุดน้ำค้างScholes Field มีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ ซึ่งรายงานไว้อย่างน่าเชื่อถือพอสมควรในช่วงการวิเคราะห์ที่เราได้รวมไว้ในเครือข่ายของเรา หากมีให้ใช้ได้ ก็จะนำค่าอุณหภูมิและจุดน้ำค้างที่ตรวจวัดไว้ในอดีตจากสถานีตรวจวัดสภาพอากาศแห่งนี้มาใช้โดยตรง บันทึกข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากชุดข้อมูลพื้นผิวแบบครบวงจรรายชั่วโมง ของ NOAA โดยย้อนกลับไปที่บันทึกข้อมูล ICAO METAR ตามความจำเป็น ในกรณีที่การตรวจวัดจากสถานีนี้ขาดหายไปหรือผิดพลาด เราจะกลับไปใช้บันทึกจากสถานีใกล้เคียง โดยปรับให้เหมาะสมกับความแตกต่างที่มีอยู่ทั่วไปตามฤดูกาลและในแต่ละวัน ในวันใด ๆ ของปีและชั่วโมงใด ๆ ของวัน จะมีการเลือกสถานีทางเลือกสำรอง เพื่อให้การพยากรณ์ในช่วงเวลาหลายปีที่มีการตรวจวัดจากทั้งสองสถานีมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด สถานีที่เราอาจใช้เป็นทางเลือกสำรองจะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ Galveston Coast Guard Station Pearland Regional Airport Ellington Field William P Hobby Airport Texas Gulf Coast Regional Airport Houston Southwest Airport Houston Dunn Helistop และท่าอากาศยานจอร์จบุชอินเตอร์คอนติเนนตัล ข้อมูลอื่น ๆข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ (เช่น อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก) เป็นการคำนวณโดยใช้สูตรทางดาราศาสตร์จากหนังสือ Astronomical Algorithms ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดย Jean Meeus ข้อมูลสภาพอากาศอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงปริมาณเมฆปกคลุม หยาดน้ำฟ้า ความเร็วและทิศทางลม และคลื่นวิทยุจากอาทิตย์ เป็นข้อมูลจาก MERRA-2 Modern-Era Retrospective Analysis ของ NASA การวิเคราะห์ซ้ำนี้มีการผนวกรวมการวัดแบบต่าง ๆ ในพื้นที่กว้างโดยอาศัยแบบจำลองทางอุตุนิยมวิทยาที่ทันสมัยระดับโลก เพื่อสร้างบันทึกประวัติสภาพอากาศรายชั่วโมงทั่วโลกขึ้นมาใหม่บนตารางกริด 50 กิโลเมตร ข้อมูลการใช้ที่ดินมาจากฐานข้อมูล Global Land Cover SHARE ซึ่งองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเป็นผู้เผยแพร่ ข้อมูลระดับความสูงมาจาก Shuttle Radar Topography Mission (SRTM) ที่ห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion ของ NASA เป็นผู้เผยแพร่ ชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง และเขตเวลาของสถานที่และสนามบินบางแห่งมาจาก ฐานข้อมูลภูมิศาสตร์ GeoNames AskGeo.com จัดเสนอเขตเวลาสำหรับสนามบินและสถานีตรวจวัดอากาศ แผนที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ © OpenStreetMap ผู้มีส่วนร่วม ข้อสงวนสิทธิ์ข้อมูลบนไซต์นี้จัดไว้ให้ตามที่เป็นอยู่โดยไม่มีการรับรองความถูกต้องแม่นยำหรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์ใด ๆ ข้อมูลสภาพอากาศมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาด ขัดข้อง และข้อบกพร่องอื่น ๆ ได้ เราไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจใด ๆ ที่กระทำโดยอาศัยเนื้อหาที่นำเสนอให้บนเว็บไซต์นี้ เราให้ความสนใจกับการกำหนดข้อมูลใหม่ตามแบบจำลอง MERRA-2 สำหรับชุดข้อมูลสำคัญจำนวนหนึ่ง โดยใช้ความรอบคอบมากเป็นพิเศษ แม้มีข้อได้เปรียบมหาศาลจากความสมบูรณ์เชิงเวลาและเชิงพื้นที่ แต่การกำหนดข้อมูลใหม่เหล่านี้: (1) ขึ้นอยู่กับแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่อาจมีข้อผิดพลาดตามแบบจำลอง (2) เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบคร่าว ๆ บนตารางกริด 50 กม. ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดตัวแปรท้องถิ่นของจุลภูมิอากาศหลายแห่งให้ใหม่ได้ และ (3) มีปัญหาเฉพาะกับสภาพอากาศในพื้นที่ชายฝั่งบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกาะขนาดเล็ก เราขอเตือนเพิ่มเติมว่า คะแนนการเดินทางของเรานั้นเชื่อถือได้มากเท่า ๆ กับข้อมูลที่รองรับเท่านั้น สภาพอากาศในตำแหน่งที่ตั้งและเวลาใด ๆ นั้นคาดการณ์ได้ยากและแปรปรวนอยู่เสมอ คำจำกัดความของคะแนนจะสะท้อนถึงความชอบบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับความชอบของผู้อ่านบางท่านโดยเฉพาะ กรุณาอ่านข้อกำหนดฉบับเต็มของเราที่หน้าข้อกำหนดการใช้บริการของเรา |