สภาพอากาศของเดือนกรกฎาคม ที่ Yampa Valley Airport สหรัฐอเมริกา

อุณหภูมิสูงรายวันอยู่ที่ประมาณ 28°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 23°C หรือสูงกว่า 32°C อุณหภูมิสูงเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 28°C ในวันที่ 19 กรกฎาคม

อุณหภูมิต่ำรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 2°C จาก 10°C เป็น 12°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 7°C หรือสูงกว่า 15°C อุณหภูมิต่ำเฉลี่ยรายวันสูงสุดคือ 12°C ในวันที่ 22 กรกฎาคม

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 16 กรกฎาคม วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ที่ Yampa Valley Airport โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 12°C ถึง 28°C ส่วน 7 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ -12°C ถึง -2°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน กรกฎาคม ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

Pulur, ตุรกี (ห่างออกไป 10,462 กิโลเมตร)และShaghat, อาร์เมเนีย (10,719 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Yampa Valley Airport มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Yampa Valley Airport กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน กรกฎาคม ที่ Yampa Valley Airport มีเมฆปกคลุม เพิ่มขึ้นช้า ๆ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก เพิ่มขึ้น จาก 24% เป็น 29%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 1 กรกฎาคม โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 76% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 52% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 76% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ที่ Yampa Valley Airport วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน กรกฎาคม มีโอกาส เพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นเดือนมีโอกาส 14% ส่วนช่วงปลายเดือนมีโอกาส 19%

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 27% ในวันที่ 30 เมษายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 14% ในวันที่ 19 มิถุนายน

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน กรกฎาคม ที่ Yampa Valley Airport อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 21 มิลลิเมตร ตลอดเดือน น้อยมากที่เกิน 42 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร

ตลอดระยะเวลาของวันที่ กรกฎาคม ที่ Yampa Valley Airport ความยาวของเวลากลางวัน ลดลง ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน ลดลง ไป 42 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การลดลง รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1 นาที และ 25 วินาที และมี การลดลง รายสัปดาห์เท่ากับ 9 นาที และ 52 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 31 กรกฎาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 14 ชั่วโมง และ 18 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 1 กรกฎาคม โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 15 ชั่วโมง และ 1 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดของเดือน ที่ Yampa Valley Airport คือ 05:42 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และพระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 23 นาที ในเวลา 06:05 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม

เวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ 20:43 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และเวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 19 นาที ในเวลา 20:24 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม

มีการใช้เวลาออมแสง ที่ Yampa Valley Airport ระหว่างปี พ.ศ. 2567 แต่ไม่เริ่มต้นหรือสิ้นสุดลงในเดือน กรกฎาคม ดังนั้นจึงมีการใช้เวลามาตรฐานตลอดทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:38 และตกในเวลาอีก 15 ชั่วโมง และ 4 นาที ต่อมาที่เวลา 20:42 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 07:29 และตกในเวลาอีก 9 ชั่วโมง และ 17 นาที ต่อมาที่ 16:45

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน กรกฎาคม 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ที่ Yampa Valley Airport is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยคงอยู่ที่ประมาณ 0% ตลอดเดือน

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Yampa Valley Airport ลดลงช้า ๆ ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยลดลงจาก 10.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 9.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 3 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 13.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 9.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ที่ Yampa Valley Airport ตลอดเดือน กรกฎาคม ส่วนใหญ่คือจาก ทิศตะวันตก โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 41% ในวันที่ 1 กรกฎาคม

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

โดยทั่วไป ฤดูเพาะปลูก ที่ Yampa Valley Airport จะมีเวลานาน 4.4 เดือน (135 วัน) โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณวันที่ 16 พฤษภาคม ถึงประมาณวันที่ 28 กันยายน น้อยครั้งมากที่จะเริ่มต้นก่อนวันที่ 27 เมษายน หรือหลังวันที่ 7 มิถุนายน และน้อยครั้งมากที่จะสิ้นสุดก่อนวันที่ 10 กันยายน หรือหลังวันที่ 18 ตุลาคม

เดือน กรกฎาคม ที่ Yampa Valley Airport อยู่ภายในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมาโดยตลอด

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ที่ Yampa Valley Airport เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้น 284°C จาก 338°C เป็น 622°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ที่ Yampa Valley Airport ลดลง ระหว่างเดือน กรกฎาคม โดยลดลง 1.0 กว.-ชม. จาก 8.2 กว.-ชม. เป็น 7.2 กว.-ชม. ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Yampa Valley Airport คือละติจูดที่ 40.481° ลองจิจูดที่ -107.218° และระดับความสูง 2,008 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Yampa Valley Airport มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 119 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1,977 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (888 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันมาก (1,971 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Yampa Valley Airport ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (43%) ทุ่งหญ้า (35%) และพื้นที่เพาะปลูก (21%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (61%)และต้นไม้ (22%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พุ่มไม้ (43%)และต้นไม้ (43%)