สภาพอากาศของเดือนกุมภาพันธ์ ใน Mean Chey กัมพูชา

อุณหภูมิสูงรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 2°C จาก 32°C เป็น 34°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 30°C หรือสูงกว่า 36°C

อุณหภูมิต่ำรายวัน เพิ่มขึ้น ไป 1°C จาก 23°C เป็น 25°C น้อยมากที่จะลดลงต่ำกว่า 21°C หรือสูงกว่า 26°C

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 6 เมษายน วันที่ร้อนที่สุด ของปี อุณหภูมิ ใน Mean Chey โดยทั่วไปอยู่ในช่วงตั้งแต่ 26°C ถึง 35°C ส่วน 1 มกราคม วันที่หนาวที่สุด ของปีนั้น อุณหภูมิอยู่ในช่วงตั้งแต่ 23°C ถึง 31°C

ตัวเลขข้างล่างแสดงให้คุณเห็นลักษณะโดยรวมของอุณหภูมิเฉลี่ยรายชั่วโมงในช่วงไตรมาสที่เริ่มจากเดือน กุมภาพันธ์ ของปี แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน โดยมีสีแสดงอุณหภูมิเฉลี่ยสำหรับชั่วโมงและวันดังกล่าว

มาราไกโบ, เวเนซุเอลา (ห่างออกไป 17,537 กิโลเมตร) Alenquer, บราซิล (17,552 กิโลเมตร) และSão Bento, บราซิล (16,559 กิโลเมตร) เป็นสถานที่ที่อยู่ไกลในต่างประเทศ โดยมีอุณหภูมิที่คล้ายคลึงกับ Mean Chey มากที่สุด (ดูข้อมูลเปรียบเทียบ)

© OpenStreetMap contributors

เปรียบเทียบ Mean Chey กับอีกเมืองหนึ่ง :

เปรียบเทียบแผนที่

เดือน กุมภาพันธ์ ใน Mean Chey มีเมฆปกคลุม อยู่ในระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยที่ร้อยละของเวลาที่ท้องฟ้า มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ยังคงอยู่ที่ประมาณ 52% ตลอดทั้งเดือน โอกาสต่ำสุดที่ท้องฟ้าจะ มืดครึ้ม หรือ มีเมฆเป็นส่วนมาก ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ คือ 51%

วันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมากที่สุดของเดือนคือ 10 กุมภาพันธ์ โดยที่ท้องฟ้า แจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือ มีเมฆบางส่วน ในอัตรา 49% ของเวลา

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มีเมฆมากที่สุดของปี สภาพอากาศมีโอกาส 92% ที่จะมืดครึ้มหรือมีเมฆเป็นส่วนมาก ส่วนในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่แจ่มใสมากที่สุดของปี ท้องฟ้ามีโอกาส 49% ที่จะแจ่มใส แจ่มใสเป็นส่วนมาก หรือมีเมฆบางส่วน

วันที่มีหยาดน้ำฟ้าตกมาก หมายถึงวันที่มีหยาดน้ำฟ้าเป็นของเหลวหรือเทียบเท่าของเหลว ในปริมาณอย่างน้อย 1 มิลลิเมตร ใน Mean Chey วันที่หยาดน้ำฟ้าจะตกมากในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ มีโอกาส อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยยังคงอยู่ที่ 7% ตลอดเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง โอกาสที่จะมีตกรายวันสูงสุดของปีคือ 65% ในวันที่ 27 กันยายน และโอกาสน้อยที่สุดคือ 6% ในวันที่ 28 มกราคม

ปริมาณน้ำฝน

เพื่อแสดงให้เห็นความแตกต่างภายในเดือน ไม่ใช่แค่ปริมาณทั้งหมดในแต่ละเดือน เราแสดงปริมาณน้ำฝนที่สะสมภายในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลังแต่ละวัน

ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลา 31 วันก่อนและหลัง ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ ใน Mean Chey อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ โดยคงอยู่ที่ประมาณ 10 มิลลิเมตร ตลอดเดือน น้อยมากที่เกิน 33 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่า -0 มิลลิเมตร

ปริมาณสะสมใน 31 วันโดยเฉลี่ยต่ำสุด เท่ากับ 8 มิลลิเมตร ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์

ตลอดระยะเวลาของวันที่ กุมภาพันธ์ ใน Mean Chey ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้นช้า ๆ ตั้งแต่ต้นเดือนถึงสิ้นเดือน ความยาวของเวลากลางวัน เพิ่มขึ้น ไป 16 นาที ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามี การเพิ่มขึ้น รายวันโดยเฉลี่ยเท่ากับ 34 วินาที และมี การเพิ่มขึ้น รายสัปดาห์เท่ากับ 3 นาที และ 57 วินาที

วันที่สั้นที่สุดของเดือนคือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 38 นาที ส่วนวันที่ยาวที่สุดคือวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โดยมีแสงสว่างกลางวันนาน 11 ชั่วโมง และ 54 นาที

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นช้าที่สุดของเดือน ใน Mean Chey คือ 06:24 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และพระอาทิตย์ขึ้นเร็วที่สุดคือ ก่อนหน้านั้น 9 นาที ในเวลา 06:15 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์

เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดคือ 18:02 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และเวลาที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดคือ หลังจากนั้นอีก 7 นาที ในเวลา 18:09 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์

ไม่มีการใช้เวลาออมแสง ใน Mean Chey ระหว่างปี พ.ศ. 2567

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันยาวนานที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:37 และตกในเวลาอีก 12 ชั่วโมง และ 48 นาที ต่อมาที่เวลา 18:25 ส่วนในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันที่มีช่วงกลางวันสั้นที่สุด ของปี ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06:14 และตกในเวลาอีก 11 ชั่วโมง และ 27 นาที ต่อมาที่ 17:41

รูปด้านล่างแสดงภาพระดับความสูงของดวงอาทิตย์แบบย่อ (มุมของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า) และมุมทิศ (มุมที่ดวงอาทิตย์มุ่งหน้าไปบนเข็มทิศ) ในแต่ละชั่วโมงของแต่ละวันตลอดช่วงเวลาที่มีการรายงาน แกนนอนเป็นวันของปี ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ในวันใด ๆ และชั่วโมงของวันนั้น สีพื้นหลังแสดงถึงมุมทิศของดวงอาทิตย์ในขณะนั้น เส้นเท่าสีดำเป็นเส้นชั้นความสูงของระดับความสูงคงที่ของดวงอาทิตย์

ตัวเลขข้างล่างแสดงภาพรวมโดยย่อของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดวงจันทร์สำหรับเดือน กุมภาพันธ์ 2567 แกนนอนเป็นวัน ส่วนแกนตั้งเป็นชั่วโมงของวัน ส่วนพื้นที่สีระบุเวลาที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แถบแนวตั้งสีเทา (จันทร์ดับ) และแถบสีน้ำเงิน (จันทร์เต็มดวง) ระบุดิถีสำคัญของดวงจันทร์ ข้อมูลที่สัมพันธ์กับแต่ละแถบแสดงให้เห็นวันที่และเวลาที่ได้รับข้อมูลข้างขึ้นข้างแรม ส่วนข้อมูลเวลาที่อยู่ด้วยกันระบุเวลาที่ดวงจันทร์ขึ้นและตกสำหรับช่วงเวลาที่ใกล้ที่สุดที่ดวงจันทร์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า

เราตั้งค่าระดับความสบายต่อความชื้นที่จุดน้ำค้างเนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่า เหงื่อจะระเหยออกจากผิวหนังเพื่อให้ร่างกายเย็นลงหรือไม่ จุดน้ำค้างที่ต่ำทำให้รู้สึกว่าแห้งกว่า ส่วนจุดน้ำค้างที่สูงขึ้นจะทำให้รู้สึกว่าชื้นมากกว่า สิ่งที่แตกต่างจากอุณหภูมิคือ โดยทั่วไปอุณหภูมิในตอนกลางคืนและกลางวันจะมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จุดน้ำค้างมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ช้ากว่า ดังนั้นขณะที่อุณหภูมิอาจลดลงในตอนกลางคืน แต่โดยทั่วไปแล้ว ช่วงกลางวันที่อบอ้าวจะตามด้วยช่วงกลางคืนที่อบอ้าวเช่นกัน

โอกาสที่วันใดวันหนึ่งจะ ร้อนอบอ้าว ใน Mean Chey เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น จาก 70% เป็น 85% ตลอดช่วงเวลาของเดือนนั้น

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวมากที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 100% ของเวลาทั้งหมด ส่วนในวันที่ 20 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่ร้อนอบอ้าวน้อยที่สุดของปี มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว 65% ของเวลาทั้งหมด

เนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงเวกเตอร์ (ความเร็วและทิศทาง) ลมเฉลี่ยรายชั่วโมงในพื้นที่กว้าง ที่ระดับ 10 เมตรเหนือพื้นดิน ลมที่ประสบในสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศเฉพาะแห่งและปัจจัยอื่น ๆ เป็นสำคัญ โดยที่ความเร็วและทิศทางลมเฉพาะขณะจะแตกต่างกันมากมากกว่าค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง

ความเร็วลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Mean Chey เพิ่มขึ้นช้า ๆ ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 10.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 11.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดช่วงเวลาทั้งเดือน

สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิง ในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมแรงที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 12.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ลมสงบมากที่สุดของปี ความเร็วลมเฉลี่ยรายวันเท่ากับ 8.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทิศทางลมเฉลี่ยรายชั่วโมง ใน Mean Chey ตลอดเดือน กุมภาพันธ์ ส่วนใหญ่คือจาก ทิศใต้ โดยมีสัดส่วนสูงสุดเท่ากับ 60% ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์

คำจำกัดความของฤดูเพาะปลูกจะแตกต่างกันไปทั่วโลก แต่เพื่อวัตถุประสงค์ของรายงานนี้ เราให้นิยามไว้ว่า เป็นช่วงเวลาต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดที่อุณหภูมิไม่ใช่จุดเยือกแข็ง (≥ 0°C) ในปีนั้น (ปีปฏิทินในซีกโลกเหนือ หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคม จนถึง 30 มิถุนายน ในซีกโลกใต้)

อุณหภูมิ ใน Mean Chey มีอากาศอบอุ่นเพียงพอตลอดทั้งปี จึงไม่มีความหมายแต่ประการใดที่จะกล่าวถึงฤดูเพาะปลูกด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เราได้แสดงแผนภูมิไว้ด้านล่างเพื่อให้เห็นการกระจายของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี

ค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกเป็นค่าการสะสมความร้อนรายปี ซึ่งใช้เพื่อทำนายพัฒนาการของพืชและสัตว์ และหมายถึงค่าอินทิกรัลความอุ่นเหนืออุณหภูมิพื้นฐาน โดยไม่คำนึงถึงส่วนเกินใด ๆ ที่สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุด ในรายงานนี้ เราใช้ค่าพื้นฐานเท่ากับ 10°C และค่าสูงสุดเท่ากับ 30°C

จำนวนวันที่มีค่าความร้อนสะสมตลอดฤดูปลูกโดยเฉลี่ย ใน Mean Chey เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ โดยเพิ่มขึ้น 488°C จาก 520°C เป็น 1,008°C ตลอดระยะเวลาทั้งเดือน

หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบรายวันทั้งหมดที่ตกกระทบพื้นผิวดินเป็นบริเวณกว้าง โดยพิจารณาถึงความผันแปรตามฤดูกาลในด้านช่วงแสงในแต่ละวัน ระดับความสูงของดวงอาทิตย์เหนือเส้นขอบฟ้า และการดูดกลืนแสงโดยเมฆและองค์ประกอบอื่นในชั้นบรรยากาศ รังสีคลื่นสั้นครอบคลุมถึงแสงที่มองเห็นได้และรังสีอัลตราไวโอเลต

พลังงานแสงอาทิตย์คลื่นสั้นตกกระทบเฉลี่ยรายวัน ใน Mean Chey is อยู่ที่ระดับคงที่เป็นสำคัญ ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ โดยคงอยู่ภายในช่วง 0.2 กว.-ชม. ของ 6.2 กว.-ชม. ตลอดเดือน

เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของรายงานฉบับนี้ พิกัดภูมิศาสตร์ของ Mean Chey คือละติจูดที่ 11.533° ลองจิจูดที่ 104.937° และระดับความสูง 18 ม.

ภูมิประเทศภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Mean Chey มี ลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ โดยที่ระดับความสูงมีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด 21 เมตร และความสูงเหนือระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยเท่ากับ 11 เมตร ภายในรัศมี 16 กิโลเมตร มีลักษณะราบเรียบเป็นสำคัญ (34 เมตร) ภายในรัศมี 80 กิโลเมตร มีระดับความสูงที่แตกต่างกันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น (745 เมตร)

พื้นที่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ของ Mean Chey ปกคลุมไปด้วย พื้นผิวเทียม (40%) พุ่มไม้ (25%) พื้นที่เพาะปลูก (18%) และน้ำ (16%) ส่วนภายในรัศมี 16 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (45%)และพื้นผิวเทียม (22%) และภายในรัศมี 80 กิโลเมตร ปกคลุมไปด้วย พื้นที่เพาะปลูก (65%)